ไม่ใช่แค่พูดอีกต่อไป ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้เลย เวที CAL Forum 2 รวมผู้นำทุกภาคส่วนหารือและแสดงเจตนารมณ์การดำเนินงานเพื่อต่อสู้ภาวะโลกร้อนพร้อมส่งต่ออนาคตให้คนรุ่นต่อไป
งาน CAL Forum ครั้งที่ 2 รวมผู้นำทั้งเอกชนและรัฐ ร่วมหาทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ไทยและโลกกำลังเผชิญ และในวันที่ 17 มีนาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว Key Speaker กล่าวในหัวข้อ “Way Forward”
โดยในวีระศักดิ์ได้กล่าวว่า ปัญหาความหลาหลายทางชีวภาพสำคัญต่อโลกมากที่สุด มากกว่า Climate Change ต่างประเทศเริ่มตื่นตัวกันแล้ว อย่างเรือ Server ของฝรั่งเศส ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และไฮโดรเจน ก็แล่นผ่านมาที่ไทยและกำลังทำสถิติแล่นรอบโลกด้วยพลังงานสะอาดได้สำเร็จก็เป็นอีกนวัตกรรมที่ขนานไปกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
เรื่องการเผาและเกิดปัญหาฝุ่นควันก็เป็นปัญหาใหญ่ที่คนไทยต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเผาในไร่ก็ดี เผาในป่าก็ดี เผาเพื่อเตรียมปลูกข้าวโพดก็ดี ดังนั้นเราจะสื่อสารกับพวกเขายังไงนี่คือประเด็น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ติดอันดับอากาศแย่ที่สุด เราควรทำอะไร หากเราพูดเรื่อง Climate Change พวกเขาจะฟังเรามากแค่ไหน
ทั้งนี้ ผู้ริเริ่มโครงการ CAL Forum นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ได้กล่าวว่า เวที CAL Forum ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว (2021) มีขึ้นเพื่อหารือกับเหล่าผู้นำ ทั้งผู้นำภาครัฐ เอกชนและธุรกิจ เข้ามารวมตัวกัน เพื่อคาดหวังให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การผลิต การลงทุน เพื่อให้สิ่งแวดล้อมดีและสมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น เวทีนี้จะเป็นการแชร์ แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน เสนอแนะและส่งต่อความยั่งยืนไปยังผู้ร่วมลงทุนได้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เวทีระดับผู้นำ CAL Forum #2 ครั้งที่ 4 แชร์ประสบการณ์การใช้นวัตกรรมรักษ์โลก
CAL Forum รุ่น 2 ครั้งที่ 3 เวทีระดับผู้นำแชร์แนวคิดการมีส่วนร่วมลดโลกร้อน
เวทีนี้มีการจัดการเหมือนการประชุม COP ระดับนานาชาติ แลกเปลี่ยนข้อเสนอแบบอิสระ และตอนนี้ผู้นำ ณ ที่นี้มีความรู้แล้วและพร้อมส่งต่อสิ่งแวดล้อมดี ๆ ให้กับคนรุ่นต่อ ๆ ไปได้แล้ว และที่สำคัญเวทีได้รวมเอาความรู้ของทุกคน และนำมาร่างให้กลายเป็นเจตนารมณ์ร่วมกัน และต่อไปนี้คือข้อความการประกาศเจตนารมณ์ของเหล่าผู้นำจากเวทีนี้ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายวราวธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นรู้รับร่างเจตนารมณ์ไป
“พวกเรา ซึ่งเป็นผู้บริหารจากภาครัฐ ภาคเอกชนในธุรกิจการผลิต การเงิน และการบริการ ภาควิชาการ ภาคสังคม และสื่อมวลชน ที่ได้มาร่วมอยู่ในฐานะภาคีของเวทีผู้นำ Climate Action Leaders Forum รุ่น 2 แห่งนี้ ซึ่งจัดขึ้นโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ลสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยอมรับถึง ความจำเป็นที่จะต้องเร่งเดินหน้าตอบสนองต่อภัยคุกคามเร่งด่วนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
ซึ่งเป็นความสำคัญที่จะต้องบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส UNFCCC ที่มีเป้าหมายเพิ่มเติม มุ่งพยายามควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยโลก ให้ไม่เกินจาก 2 องศาเซลเซียส ให้ได้เป็น 1.5 องศาเซลเซียส และด้วยผลกระทบจากภัยพิบัติที่มีความรุนแรงมากขึ้น และกระทบกับทุกคน โดยไม่เลือกว่าประเทศนั้นจะยากจนหรือร่ำรวย มีขีดความสามารถมากหรือน้อย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่การขับเคลื่อนไปสู่ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero GHG Emissions) จะไม่มีวันหยุดและจะเร่งเร็วขึ้น”
มนุษย์ทุกคนถลุงโลก ตั้งแต่เกิดไปจนตาย CAL Forum ระดมสมองรัฐ-เอกชนลดโลกร้อน
“วราวุธ” ลงพื้นที่ แก้ปัญหา การกัดเซาะชายฝั่ง พื้นที่บางขุนเทียน
ผลงาน 3 ปี ของ "ท็อป วราวุธ" รัฐมนตรีที่ไม่เคยสั่งการแต่บนหอคอย
ดังนั้น ในฐานะของ Climate Action Leaders Forum รุ่น 2 เราประกาศเจตนารมณ์ความตั้งใจว่าเราจะมุ่งมั่นร่วมมือ ส่งเสริม และสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สุดท้ายนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวปิดท้ายว่า เวที CAL 2 เป็นรุ่นที่มีความสำคัญ ต่อยอดมาจาก CAL 1 และจะดป็นต้นทางไปยัง CAL 3 ทุกท่านที่มาแลกเปลี่ยนในเวทีนี้ มารวมตัวกันไม่ใช่เรื่องง่าย เราพูดกันมาตลอด
ผมพูดมาหลายสิบครั้ง ความเป็นกลางทางคาร์บอนจะต้องสำเร็จในปี 2050 Net Zero 2065 แต่การทำงานจริง การพลิกประเทศไทยไปยังเป้าหมายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกคนต้องมีความรู้ IUU Fishing เรื่องของการประมงในเขตน่านน้ำ ไทยก็ถูกนานาชาติเตือน
แต่ Climate Change ยังไม่มีใครแบนเราได้ว่าเราต้องทำแบบนู่นแบบนี้ แต่ภัยธรรมชาติต่างหากที่กำลังส่งสัญญาณเตือนให้เรา ดังนั้น ความร่วมมือในวันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การพูดไปเปล่า กลับจากเวทีนี้ก็ไปนอน ไปทานข้าวสบายใจ ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ดังนั้น ต้องลงมือทำกันวันนี้และเดี๋ยวนี้เลย เพื่อคนรุ่นต่อ ๆ ไป