สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 วันนี้ 15 ก.พ. 67 กทม. วิกฤตติดท็อป 10 อากาศแย่โลก เกินมาตรฐาน 81 พื้นที่ทั่วกรุง เช็กเลยวิธี หลีกเลี่ยงฝุ่นและช่วยลดฝุ่นด้วยตนเอง ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
กรมควบคุมมลพิษ ได้คาดการณ์สถานการณ์ค่า PM2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ว่ามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 ก.พ. ส่วน กทม. และปริมณฑลมีการระบายอากาศอ่อน
วันนี้ 15 ก.พ. 2566 เว็บไซต์ iqair จัดอันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกพบว่า กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยอยู่อันดับ 10 ของโลก ขณะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเหนือของไทยอยู่อันดับที่ 21 ของโลก
โดยเมื่อเวลา 07.00น. เว็บไซต์ airbkk.com ได้รายงานสถานการร์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพ พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 81 พื้นที่ทั่วกรุง โดยอยู่ในระดับสีส้ม 64 พื้นที่และระดับสีแดง 17 พื้นที่
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศเมื่อ 14 ก.พ. ให้หน่วยงานสังกัดกทม. Work from home (WFH) และขอความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน จำนวน 151 แห่ง (60,279 คน) ในวันพฤหัสบดีที่ 15 และศุกร์ที่ 16 ก.พ.
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ เปิดเผยว่า เพื่อลดแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง และเพื่อป้องกันสุขภาพอนามัยของประชาชน ทส.ได้แจ้งประสานกับผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร จังหวัดปริมณฑล หน่วยงานกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับการปฏิบัติการ การเฝ้าระวังเรื่องการสาธารณสุข และจังหวัดที่มีการเผาในพื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า กำชับเข้มงวดควบคุม เพื่อลดผลกระทบที่เกิดทั้งในพื้นที่และการส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมกันนี้ต้องขอความร่วมมือทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้พนักงานทำงานแบบ Work From Home ตามสัดส่วนที่สามารถทำได้ ตั้งแต่วันนี้ไปถึงวันหยุดสุดสัปดาห์
กับสถานการณ์ฝุ่นที่วิกฤต อยู่ในขณะนี้ จะมีวิธีไหนบ้าง ที่เราจะเอาตัวรอดจาก ฝุ่น PM 2.5 และช่วยกันคนละไม้คนละมือในการลด ฝุ่น PM 2.5 เพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กทม. ประกาศ Work From Home 15-16 ก.พ. หลังฝุ่นพิษพุ่งระดับสีแดง
ฝุ่น PM2.5 วันนี้ 14 ก.พ. 67 น่าห่วงทั่วประเทศ ฟุ้งทั่วกรุง รับวาเลนไทน์
ฝุ่น PM2.5 วันนี้ 13 ก.พ. 67 ฟุ้ง 77 พื้นที่ทั่วกรุง กระทบสุภาพ 58 จังหวัด