นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมในฝรั่งเศสสาดซุปใส่รูปภาพ โมนาลิซา อันโด่งดังของเลโอนาร์โด ดาวินชี เรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงอาหารแบบยั่งยืน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมสาดน้ำซุป ใส่ภาพโมนาลิซา ภาพวาดที่โด่งดังที่สุดในโลก ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในฝรั่งเศส โดยระหว่างการ สาดซุปนั้น นักประท้วง ได้เรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงอาหารแบบยั่งยืน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ระบบเกษตรกรรมของฝรั่งเศสว่ากำลังย่ำแย่ แต่ในทางกลับกัน เรื่องการประท้วงครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
โดยในช่วงวันที่ 28 มกราคม 2567 ได้เกิดเหตุนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมชาวฝรั่งเศส 2 คน สาดน้ำซุปไปที่รูปวาดจริงของโมนาลิซา ผลงานชิ้นเอกของเลโอนาร์โด ดาวินชี เขียนขึ้นในศตวรรษที่ 16 ที่ถูกจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส
นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมในฝรั่งเศส สาดซุปใส่รูปโมนาลิซา ทำให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ต่างตกตะลึกกับการกระทำของพวกเขาแต่โชคดีที่หน้ารูปวาดมีกระจกนิรภัยกั้นไว่้อีกชั้นหนึ่งทำให้รูปวาดไม่ได้รับความเสียหาย
นักเคลื่อนไหว 2 คนนี้เป็นตัวแทนของ องค์กร คีโปสต์ อะลิมองแตร์ (Riposte Alimentaire) ที่ออกมาประท้วงเพื่อย้ำถึงความจำเป็นในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและแหล่งอาหาร ซึ่งในขณะที่พวกเขากำลังสาดซุปก็ได้มีการตะโกนเรียกร้องว่าศิลปะไม่ได้มีความจำเป็นต่อมนุษย์เท่าสิทธิที่จะมีระบบอาหารที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม เหตุนี้สร้างความไม่พอใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยี่ยมชมรูปวาดโมนาลิซาอย่างมาก โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวเผยว่าเป็นการกระทำที่น่าขยะแขยงและพวกเขาไม่คิดว่าการทำลายงานศิลปะจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่นักเคลื่อนไหวต้องการเรียกร้องแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาพบว่ามีงานศิลปะชื่อดังของโลกหลายชิ้นเริ่มตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มนักเคลื่อนไหวที่ต้องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเมื่อปี 2565 รูปวาดโมนาลิซาเคยถูกผู้ประท้วงนำวิปครีมมาทาไปแล้วครั้งหนึ่ง
ขณะที่เมื่อเดือนตุลาคมปี 2022 มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวขว้างกระป๋องซุปใส่รูปวาดเซ็ตดอกทานตะวัน ของวินเซนต์ ฟาน โกะ ที่หอศิลป์ในกรุงลอนดอนและหลังจากนั้น 1 เดือนก็เกิดเหตุคล้ายกันกับรูปวาดของศิลปิน ฟรันซิสโก โกยา ในพิพิธภัณฑ์ที่กรุงมาดริดด้วย
สำหรับประเทศฝรั่งเศส นั้น มีประเด็นเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และ เรื่องอาหาร โดยฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่จับและปรับห้างร้านที่ทิ้งผลิตภัณฑ์ซึ่งมนุษย์ยังสามารถรับประทานได้ เพราะคนยากไร้และชนชั้นกลางในฝรั่งเศส ต่างก็ต้องกระเสือกกระสนหาอาหารใส่ท้องทุกวัน
ในขณะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับทิ้งขยะอาหารปริมาณราว 20 กิโลกรัมทุกวัน ในฝรั่งเศสมีแคมเปญเรียกร้องให้ออกกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ได้รับการลงชื่อสนับสนันถึง 210,000 รายชื่อ เพราะช่วงเวลาดังกล่าวกำลังจะมีการจัดประชุมนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ปารีสพอดิบพอดี โดยผู้รณรงค์มองว่าเป็นโอกาสที่จะผลักวาระดังกล่าวให้ถึงระดับสหภาพยุโรป
ที่มา : reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง