ไทยตั้งเป้าส่งออกข้าว 7.5 ล้านตันในปี 2023 และชวนรู้จักเทรนด์ข้าวรักษ์โลก

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า แม้อุปสงค์ข้าวจะสูงอย่างมั่นคงในปีนี้ แต่ความผันผวนของสกุลเงินบาทอาจทำให้ข้าวไทยมีราคาแพงกว่าบรรดาคู่แข่ง  โดย รณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่ากระทรวงฯ ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวปี 2023 เป็น 7.5 ล้านตัน ลดลงจากระดับการส่งออกที่ 7.69 ล้านตันในปีที่แล้ว

กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าสนับสนุนข้าวไทยอย่างต่อเนื่องผ่านงานกิจกรรมและการประชุมต่างๆ ซึ่งรวมถึงการเดินทางไปเจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญอย่างจีน เวียดนาม ออสเตรเลีย และเยอรมนี  โดย กระทรวงพาณิชย์  กล่าวว่าปริมาณการส่งออกข้าวในปี 2022 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากปี 2021 ซึ่งอยู่ที่ 6.3 ล้านตัน

ทั้งนี้ อิรักเป็นตลาดส่งออกข้าวขนาดใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2022 ที่จำนวน 1.6 ล้านตัน ตามมาด้วยแอฟริกาใต้ สหรัฐฯ และเบนิน

ที่มา Xinhua

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ข้าวรักษ์โลก คืออะไร ? ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุนระยะยาว ดีต่อใจ

• นิวซีแลนด์จ่อเก็บภาษีปล่อยก๊าซมีเทนจากวัว แกะ หวังลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

• กรุงเทพ รองแชมป์เอเชีย เมืองที่ผู้คนเสียเวลาบนถนนมากที่สุด - รั้งที่ 32 โลก

•เทรนด์ข้าวรักษ์โลก กำลังแรง 

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน เทรนด์การรักษ์โลก และ เทรนด์ keep The World กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะมันจะเป็นเรื่องดีแค่ไหน ถ้าหาก ปลูกข้าวแล้ว ยังเข้ากับวิถีรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย 
 
สำหรับ ข้าวรักษ์โลก คืออะไร ? นี่จะเป็นการทำนารูปแบบใหม่ วิถีนาใหม่ ลดน้ำ ลดต้นทุน ลดปล่อยก๊าซทำลายชั้นบรรยากาศโลก ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เข้าเทรนด์รักษ์โลก Keep The World ? 

สำหรับ ข้าวรักษ์โลก นั้น คือ วิถีนาใหม่... ซึ่งหากเดินตามแนวทางนี้ จะส่งผลให้ ชาวนาน ปลูกในแบบรักษาความสะอาดต่อโลก แม้เรื่องนี้จะยังไม่ได้กว้างขวางแบบนิยมไปทั่วประเทศ แต่ในปัจจุบัน เรื่องการปลูกข้าวแบบรักษ์โลก มันกำลังแพร่ขยายไปในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ 

คำถามคือ นารักษ์โลก การปลูกข้าวรักษ์โลก ต่างจากวิถีการทำนาแบบเดิมๆ อย่างไร ? ,  ซึ่งหากจะอธิบายแบบเห็นภาพมากที่สุด คือ การปลูกข้าวแบบเดิมๆ จะมีน้ำขังอยู่ในพื้นที่นาตลอดเวลา 

และนั่นทำให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งก๊าซมีเทน ก็เป็นก๊าซเรือกระจกที่รุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ 28 เท่า และประมาณการว่า นา 1 ไร่อาจก่อให้เกิดก๊าซมีเทนได้หลักสิบ ถึงหลักพันกิโลคาร์บอน ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ ไทม์ฟอร์เชนจ์ (Time For Change.com) ประเมินว่า การใช้น้ำมันรถยนต์ 1 ลิตร จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 10 กิโลคาร์บอน นั่นหมายความว่า การปลูกข้าว 1 ไร่ อาจก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าการใช้น้ำมัน 1 ถึง 100 ลิตร 

นอกจากนี้ การปลูกข้าวรักษ์โลก จะต่างจากวิถีทำนาแบบเดิมๆ อีก อาทิ การใช้เครื่องสูบน้ำเข้านา มันจะต้องใช้ น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งมันก็มีเอฟเฟกต์ในการก่อก๊าซเรือนกระจก  ขณะที่ ตอซัง และ ฟางข้าว หากเป็นวิถีการทำนาแบบเดิมๆ ก็จะมีการเผา จนส่งผลให้ควันพิษเต็มอากาศไปหมด  ซึ่ง หากปลูกข้าวรักษ์โลก ทำนารักษ์โลก มันจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ หรืออย่างน้อยๆก็บรรเทาเรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมให้เบาบางลง