พรรคเพื่อไทย ชูประเด็น เรื่องสิ่งแวดล้อมไว้เด่นๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จะถูกแก้ไขทั้งระบบทั่วประเทศ นอกจากนี้ โครงสร้างราคาพลังงาน ถูกปรับรื้อ ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ลดลงทันที
ใกล้ถึงวัน เลือกตั้ง 2566 แล้ว และสิ่งที่เป็นประเด็นที่ผู้คนในโลกยุคใหม่ สนใจก็คือเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่อง Keep The World โดยพรรคเพื่อไทย ได้ชูเรื่องสิ่งแวดล้อมไว้เด่นๆ อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จะถูกแก้ไขทั้งระบบทั่วประเทศ นอกจากนี้ โครงสร้างราคาพลังงาน ถูกปรับรื้อ ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ลดลงทันที
พรรคเพื่อไทย เพิ่งประกาศพลิกฟื้นประเทศ ด้วย 10 นโยบาย ในช่วงปลายปี 2565 ที่ผ่านมา โดยหากเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล มั่นใจ “คิดใหญ่ ทำเป็น” และจะเดินหน้าได้ด้วยการเมืองที่มีเสถียรภาพเพื่อทวงคืนเวลา 1 ทศวรรษที่หายไปของทุกคนกลับมา ส่วนเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้น พรรคเพื่อไทย มุ่งเรื่องสิ่งแวดล้อมหลักๆ ดังนี้
น้ำท่วม-น้ำแล้งจะแก้ไข
โดยใน นโยบาย ด้านโครงสร้างพื้นฐานนั้น เรื่อง ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จะถูกแก้ไขทั้งระบบทั่วประเทศ มีการสร้างคลองน้ำเพื่อเชื่อมแม่น้ำหลักเข้าหากัน และมีอ่างเก็บน้ำเป็นแก้มลิงตามเส้นทางน้ำสายหลัก เพื่อให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยัง มีการสำรวจสิ่งก่อสร้างที่ขวางทางน้ำไหล โดยเฉพาะถนน แล้วเปิดทางเพื่อให้น้ำไหลลงแม่น้ำสายหลักตามหลักแรงโน้มถ่วงโลก ดังที่เคยทำในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งทำให้น้ำไม่ท่วมมา 20 ปีแล้ว รวมถึงทำทางน้ำหลาก หรือ ฟลัดเวย์และทางผันน้ำ เพื่อระบายน้ำลงทะเลให้เร็วขึ้นทั้งสองฝั่งเจ้าพระยา
ขณะเดียวกัน จะมีการ ป้องกันน้ำทะเลหนุนไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯ ด้วยการถมทะเลด้านบางขุนเทียนจนถึงสมุทรปราการ สมุทรสาคร และเกิดแผ่นดินงอกจำนวนมาก ซึ่งนอกจากป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯ ได้แล้ว ยังลดความแออัดของกรุงเทพฯ ที่สำคัญคือ ยังสามารถเอาที่ดินงอกนี้ มาทำเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมดึงดูดรายได้จากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รื้อพลังงานทั้งระบบ
นโยบายด้านพลังงาน ซึ่งมันจะเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมนั้น พรรคเพื่อไทยเน้นย้ำว่า โครงสร้างราคาพลังงาน ถูกปรับรื้อตั้งแต่ปี 2566 ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟ ลดลงทันที จะรณรงค์ และส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน ทำให้ลดการพึ่งพาน้ำมันให้น้อยลง
นโยบายด้านการเกษตร
ในปี 2570 พรรคเพื่อไทยนำเทคโนโลยีทางการเกษตรหรือ Agritech มาใช้ เช่น เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) ใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มาช่วยในการเกษตร มีการปรับปรุงหน้าดิน และใช้ปุ๋ยเท่าที่จำเป็น ซึ่งนั่นจะหมายถึงว่า เรื่องสภาพแวดล้อม สภาพมลพิษจากสารพิษต่างๆก็จะน้อยลงด้วย
เกษตรกรจะมีรายได้มากขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง ใช้การตลาดนำการผลิต ไม่มีการทำการเกษตรแบบไร้เป้าหมาย สินค้าการเกษตรต้องขึ้นยกแผง มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัล (NFT) มาใช้ในการขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ให้ต่างชาติมาช่วยเสริมสภาพคล่องให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง ราคาพืชผลเกษตรจึงขึ้นยกแผงทุกตัว เพราะเคยทำมาแล้ว และจะทำต่อไป
ที่มา ptp
ข้อมูล ณ วันที่ 30 ม.ค. 66