วราวุธ ตั้งเป้าเร่งผลักดันป่าเศรษฐกิจ เพิ่มการดูดซับก๊าซคาร์บอนฯ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ร่วมพิธีเปิดการจัดประชุมสมัชชาต้นไม้เพื่อแผ่นดินตามรอยพ่อ ครั้งที่ 2 "การขับเคลื่อนไม้เศรษฐกิจ" และกล่าวปาฐกถาพิเศษ "การขับเคลื่อนไม้เศรษฐกิจ : เจตนารมณ์ทางการเมือง" เพื่อผลักดันการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ขยายเศรษฐกิจเพิ่มพื้นที่ในป่า และในเมืองให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ โดยการประชุมจัดขึ้น ที่อาคารรัฐสภา 

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ให้ความเห็นว่า  การดำเนินการตามพระราชดำริของ องค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) นั้น พระองค์ได้ทรงพระราชทาน ความคิดการปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง ที่ให้ทุกท่าน ได้กิน ได้ใช้ ได้ขาย และท้ายที่สุด คือสามารถรักษาต้นน้ำ รักษาระบบนิเวศ นอกจากนั้นยังสามารถแปรสภาพออกมาเป็นคาร์บอนเครดิตได้ ในวันนี้โลกของเรากำลังให้ความสำคัญมากขึ้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• วราวุธ เตรียมแจกงาน จากเวที COP27 ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
• กาตาร์ รื้อสเตเดี้ยม 974 สนามฟุตบอลโลก รักษ์โลก หลังจัดบอลโลกครบ 7 แมตช์แล้ว
• 10 อันดับ สิ่งของที่พบเป็น ขยะทะเล มากที่สุด : หยุดเท หยุดทิ้ง กันเถอะ

วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เปิดเผยว่า  ประโยชน์ของป่าเศรษฐกิจนั้น มันจะเป็นส่วนหนึ่ง ของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เราต้องการมีพื้นที่สีเขียว ให้ได้ถึง 55% แบ่งเป็น ป่าธรรมชาติ 35% ป่าเศรษฐกิจ 15% และพื้นที่สีเขียวในเมืองอีก 5%  สำหรับป่าเศรษฐกิจขณะนี้เรามีอยู่ 32-33 ล้านไร่ จากเป้าหมาย 50 ล้านไร่ เท่ากับว่าวันนี้เรายังขาดอีกเกือบ 16 ล้านไร่ โดยตั้งเป้าจะมีให้ครบภายใน 2580  ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

โดยป่าเศรษฐกิจ มีศักยภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าป่าสมบูรณ์ หรือว่าป่าธรรมชาติหลายเท่าตัว  ยกตัวอย่างเช่น ไม้ยาง หรือว่าไม้ในเขตป่าเศรษฐกิจที่เป็นไม้โตเร็ว ยิ่งโตเร็วเท่าไหร่ ยิ่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากเท่านั้น เหมือนกับเด็กที่กำลังโต เด็กที่กำลังโตก็จะกินข้าวมากกว่าผู้ใหญ่ พอไม้โตเต็มที่แล้ว เขาก็จะกินน้อยลง ผู้ใหญ่ก็จะกินน้อยลง ต้นไม้ก็เช่นกัน พื้นที่ป่าธรรมชาติก็จะมีศักยภาพในการดูดซับก๊าซเรือนกระจกแต่อัตราการดูดซับนั้นมันจะยังน้อยกว่าป่าเศรษฐกิจ เพราะป่าเศรษฐกิจนั้นเป็นไม้ที่โตเร็วกว่า 

อย่างไรก็ตาม ป่าเศรษฐกิจที่อยู่ในพื้นที่ของเราจะเป็นส่วนหนึ่ง ที่สามารถลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง ดินถล่ม และอีกหลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่าง ที่ล้วนแล้วเกิดมาจากมนุษย์ 

ดังนั้นการจะส่งเสริม การปลูกป่า ไม่ว่าจะเป็นป่าเศรษฐกิจ หรือพื้นที่สีเขียวใดๆ จะเป็นการบรรเทาความรุนแรงของภัยพิบัติ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ฟื้นฟูระบบนิเวศ ได้ในอนาคต