ซาอุฯเผยแผนสร้างเมืองแนวตั้งแห่งใหม่ ใช้พื้นที่เล็กที่สุดแต่ยาวที่สุดเพื่อสร้างเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คาร์บอนเป็น 0 ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ไร้รถ ไร้ถนน
แค่เห็นก็ได้กลิ่นของอนาคตที่ทันสมัยลอยมาเลย ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศแผนการสร้างเมืองใหม่ที่ทำให้คุณต้องมนต์เหมือนหลุดไปอยู่ในภาพยนตร์ไซไฟโลกอนาคต แต่เมืองแห่งนี้มันกำลังเกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้
THE LINE เมืองที่ไม่มีถนน รถยนต์ หรือการปล่อยมลพิษ และหันมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% แถมใช้พื้นที่น้อยและการใช้สอยที่ต่างจากเมืองดั้งเดิมทั่วไป ด้วยอัตลักษณ์ที่พิเศษที่สุดคือการออกแบบเมืองที่ทอดยาวไปโดยใช้พื้นที่เพียง 34 ตารางกิโลเมตร
THE LINE เป็นเมืองที่มีความกว้างเพียง 200 เมตร แต่ยาวถึง 170 กิโลเมตร และสูงจากระดับน้ำทะเล 500 เมตร สูงกว่าหอไอเฟลเลยแหละ รองรับผู้คนได้ 9 ล้านคน เมืองแห่งนี้จะสร้างประสิทธิภาพความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมที่น่ามหัศจรรย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
คุณจะมีสภาพภูมิอากาศในอุดมคติตลอดทั้งปีที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับธรรมชาติโดยรอบได้ ผู้อยู่อาศัยจะเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยการเดินเพียง 5 นาที และมีรถไฟความเร็วสูงอำนวยความสะดวกในการเดินทาง จากต้นทางไปยังปลายทางเพียง 20 นาที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดม Bioceramic อาจเป็นที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต ทนทุกสภาพอากาศ-ลดขยะเป็นศูนย์
อาหารแห่งอนาคต อาหารจานโปรดของคุณจะยังเหมือนเดิมไหมในปี 2050
อียิปต์อาจเป็นเมืองแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จเมืองคาร์บอนเป็นศูนย์
District 2020 สมาร์ทซิตี้แห่งใหม่ของ UAE ที่เริ่มจากอีเวนต์ EXPO 2020 Dubai
ธรรมชาติที่หลงเหลือและการดูแลอย่างถนุถนอม
เมืองนี้ออกแบบด้วยการเน้นถึงสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีความเห็นว่า การสร้างเมืองใหญ่ที่ขยายออกสู่ด้านข้างแบบแนวราบมันกำลังขยายขึ้น และกิจกรรมของมนุษย์กำลังทำให้โลกแคบลงและสร้างความเสียหายแก่ธรรมชาติพอสมควร
ดังนั้นเมืองนี้จะเป็นเมืองคาร์บอนเป็น 0 โดยการกำจัดโครงสร้างพื้นฐานที่มีการใช้คาร์บอนสูงออกไป เช่น รถยนต์และถนน และจะนำพลังงานหมุนเวียนเข้ามาเป็นหลังงานหลักของเมือง 100% รวมไปถึงการควบคุมและการดำเนินงานของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและพื้นที่เปิดกว้างให้มีบทบาทสำคัญในการทำให้คุณภาพอากาศบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น
เมืองนี้จะทำให้คุณมีเวลาให้กับคนที่คุณรักมากขึ้น
ทุกวันนี้ การเดินทางในเมืองใหญ่ต่าง ๆ มีการคมนาคมที่หลากหลาย และแต่ละประเภทของการเดินทางนั้นใช้เวลานานพอสมควร บางเมืองใหญ่อาจใช้เวลาเกือบเป็นชั่วโมงเพื่อไปพบเพื่อนหรือคนรัก แต่เมืองแห่งนี้จะออกแบบให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น ด้วยการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตประจำวัน โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น จะมีการสร้างเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพให้บริการจากต้นทางไปจนถึงปลายทาง ด้วยเวลาเพียง 20 นาที
และเพิ่มความทันสมัยเข้าไปด้วยการให้บริการขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยปัญญาประดิษฐ์ สิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองนี้จะสร้างให้คุณเข้าถึงเพื่อนฝูง ครอบครัว และคนรักได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
สภาพภูมิอากาศที่เราใฝ่ฝันจะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี
ในโลกปัจจุบัน สังคมของเราต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนและเต็มไปด้วยมลพิษที่ทำร้ายทั้งสุขภาพของมนุษย์และโลกอย่างร้ายแรง เมืองนี้จึงออกแบบแผนผังด้วยการจัดตั้งพื้นที่แบบ Microclimatic สภาพแวดล้อมที่ได้รับการออกแบบอย่างระมัดระวังเพื่อให้มีความสมดุลของแสงแดดที่ส่องเข้ามา ร่มเงา และการระบายอากาศตามธรรมชาติ ให้เกิดความเหมาะสมที่สุดสำหรับการอยู่อาศัย
นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวที่เปิดโล่งเกือบทั่วทั้งเมืองจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยให้เข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ง่ายยิ่ง การมองเห็นสีเขียวหรือการใช้พื้นที่สาธารณะส่วนกลางมาเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์สามารถสร้างคุณภาพชีวิตและจิตใจของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี สร้างสุขภาพจิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยไม่ว่าจะการท่องเที่ยวและเวลาหลังเลิกงานที่เคร่งเครียด
เมืองแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าชาย มูฮัมมัด บิน ซัลมาน (Mohammed Bin Salman) เป็นผู้อนุมัติและดำเนินการโดยโครงการ Neom ซึ่งเมืองแห่งนี้ถูกเสนอให้จัดตั้งเมืองในเขตทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในอ่าวใกล้ทะเลแดง
เป้าหมายของโครงการนี้มีวิสัยทัศน์ไปถึงปี 2030 เพื่อให้เกิดการแข่งขันทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านในอ่าว เช่น ดูไบและอาบูดาบีในฐานะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเมืองนี้มีความคาดหวังว่าจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจของราชอาณาจักรได้ ด้วยเป้าการเยี่ยมชมเมือง 100 ล้านคนต่อปีภายในปลายศตวรรษนี้
ความเห็นด้านลบของโครงการ THE LINE
นักวิจารณ์ได้ตั้งข้อสงสัยว่า โครงการนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ ในทางเทคโนโลยี และวิสัยทัศน์ของวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมาเพื่อโปรโมตนั้นดูฉูดฉาดจนดูเหมือนเกินความเป็นจริง จนหลายคนพูดว่า มันจะกลายเป็นเมือง ดิสโทเปีย (dystopian) หรือเปล่า (ดิสโทเปีย เป็นเมืองขั้วตรงข้ามของยูโทเปีย โดยถูกนิยามว่าเป็นสังคมที่ไม่พึงประสงค์หรือน่ากลัว โดยการปกครองด้วยระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ)
สาเหตุของข้อคิดเห็นเชิงลบนี้มาจาก อดีตของซาอุดิอาระเบียยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับด้านสิทธิมนุษยชน การสร้างโครงการ THE LINE ขึ้นจึงถูกมองว่าเปรียบเสมือนการรีแบรนด์ของภาพลักษณ์ซาอุดิอาระเบีย ให้มุ่งไปยังเมืองแห่งอนาคตที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่นได้หลายพันล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ซาอุดิอาระเบียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ในเดือนมีนาคม มีชายถูกสั่งประหารชีวิตถึง 81 คน ซึ่งถือว่าเป็นการประหารครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ในขณะเดียวกันคดีที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง การที่เจ้าชายบิน ซัลมาน ถูกกล่าวหาว่าได้อนุมัติปฏิบัติการจับกุมและสังหาร จามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดิอาระเบีย ตามรายงานข่าวกรองของสหรัฐฯ โดยพระองค์ได้ปฏิเสธการสั่งสังหารดังกล่าว และประณามการเข้าแทรงแซงของนานาชาติ
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการตั้งคำถามต่อการสร้างเมืองของซาอุดิอาระเบียเท่านั้น ส่วนการเกิดขึ้นของเมืองนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ จะเป็นเช่นไร แล้วจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ คงต้องตามลุ้นกันต่อไป หากเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นตามเป้าหมายและการดำเนินงานตามที่ตั้งไว้โดยไม่ทำลายทัศนียภาพหรือสิ่งแวดล้อมดังที่ประชาสัมพันธ์ออกมาได้ ก็คงถือว่าอาจจะเป็นเมืองต้นแบบแห่งใหม่ของโลกเพื่อก้าวสู่ศตวรรษใหม่แห่งอนาคตก็เป็นได้
ที่มาข้อมูล
https://www.neom.com/en-us/regions/theline
https://edition.cnn.com/style/article/saudi-arabia-the-line-city-scli-intl/index.html