โควิด-19 ยังเป็นปัญหากับวิถีชีวิตของประชากรโลก แต่มีหลายภาคธุรกิจพยายามผลักดันให้โลกฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิม ดังเช่น ธุรกิจสายการบินที่พยายามให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ในแบบคล่องตัวขึ้น โดย เริ่มเสนอให้ บุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้ว ควรจะไม่ต้อง กักตัว ให้เสียเวลาอีกต่อไป
หลายประเทศทั่วโลก เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศแล้ว แต่วิถีชีวิตของประชากรโลก หลังจากนี้ก็ยังดำเนินไปแบบ New Normal อยู่ อย่างน้อยในประเด็นการเดินทางระหว่างประเทศ ยังเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกสบาย เพราะยังต้องมีมาตรการกักตัวตามแต่ประเทศต่างๆออกนโยบาย เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรค รวมถึงกระแสข่าวความไม่ปลอดภัยของวัคซีนบางชนิด อาทิ AstraZeneca ที่หลายประเทศระงับการฉีดวัคซีน ถึงแม้องค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) จะแสดงท่าทีให้ดำเนินการฉีดต่อประชาชนต่อไปได้ก็ตาม อย่างไรก็ตามธุรกิจสายการบิน นับเป็นธุรกิจที่มีความต้องการอยากให้ โลกกลับมาสู่จุดเดิมก่อนยุคโควิดโดยเร็วที่สุด โดยมองว่า วัคซีนน่าจะเป็น "กุญแจสำคัญ" ให้โลกกลับสู่ภาวะปรกติได้แล้ว
โดย นาย ฌอน ดอยล์ ซีอีโอของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส เสนอแนวคิดว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว สมควรได้รับอนุญาตให้เดินทางได้โดยไม่มีข้อจำกัด ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนควรสามารถเดินทางได้หากมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ
นอกจากนี้ ซีอีโอสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ยังเรียกร้องให้สหราชอาณาจักร ทำงานร่วมกับรัฐบาลประเทศประเทศอื่นๆ เพื่อใช้แอปพลิเคชันสุขภาพต่างๆในการเปิดการเดินทางอีกครั้ง หลังจากข้อกำหนดการบินทำให้หลายสายการบินได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ขอเรียกร้องของ บริติช แอร์เวย์ส นั้น ถือเป็นข้อเรียกร้องเชิกรุกเพื่อให้ธุรกิจสายการบินกลับมาฟื้นตัว เพราะในช่วงโควิด-19 ทั่วโลกแทบจะชัตดาวน์ประเทศ และห้ามบินไปมาหาสู่กัน
ก่อนหน้านี้ เอมิเรตส์แอร์ไลน์ เป็นอีกหนึ่งสายการบินที่ดำเนินแผนงานสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร โดยสายการบินได้ให้พนักงานทุกคน ฉีดวัคซีน อย่างครบถ้วนเป็นสายการบินแรกมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สายการบินเรียกร้องนั้น อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นในเร็ววัน แต่อาจจะต้องรอจากนโยบายจากภาครัฐในแต่ละประเทศ รวมถึงต้องรอตัวเลขจำนวนประชากรในแต่ละประเทศที่ได้รับวัคซีนให้เพิ่มสูงขึ้น
ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีประเทศไหนอนุญาตให้เดินทางแบบเสรี แต่จะมีบางประเทศที่มีแนวนโยบายแบบ "ทราเวล บับเบิล" หมายความถึงการจับคู่ด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มประเทศที่มีความมั่นใจในความปลอดภัยของโรคโควิด-19 โดยจะมีการตกลงกันระหว่างรัฐบาลของแต่ละประเทศในการให้สิทธิพิเศษของการเดินทางเข้าออกระหว่างกันได้โดยไม่ต้องมีการกักตัว 14 วัน แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มข้น.
ทั้งนี้ แม้จะมีอีกหนึ่งกระแสมองว่า การตรวจสอบบุคคลแต่ละบุคคลว่าฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วหรือไม่ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หาก บุคคลที่ได้รับวัคซีนแล้ว ต้องนับว่า เป็น "ใบเบิกทาง" ที่ทำให้การเดินทางข้ามประเทศง่ายขึ้นตามมา...ในโลกที่เรายังต้องอยู่กับโควิดต่อไป...
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• อังกฤษทุ่มเงินสนับสนุนสุขภาพจิตช่วงโควิดกว่า 3.3 พันล้านบาท
• วัคซีนโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ผลดีกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้
• อังกฤษทุ่มเงินสนับสนุนสุขภาพจิตช่วงโควิดกว่า 3.3 พันล้านบาท