ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯวินิจฉัยเห็นตามศาลชั้นต้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ไม่สามารถบล๊อคผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง
ศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ออกคำวินิจฉัยความยาว 29 หน้า ระบุว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างพื้นที่อภิปรายสาธารณะสำหรับกิจการของทำเนียบขาว และรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ของสหรัฐฯ ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก ไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐ กีดกันคนจากการสนทนาออนไลน์แบบเปิดกว้าง เพียงเพราะคนเหล่านั้นแสดงความคิดเห็นที่เจ้าหน้าที่รัฐไม่เห็นด้วย
คดีความนี้เป็นคดีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์กลุ่มหนึ่งในสหรัฐฯและสถาบันอัศวินแห่งรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ยื่นฟ้องประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าบล๊อคความคิดเห็นของฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เหมาะสม ผู้ใช้ทวิตเตอร์เหล่านี้ประกอบไปด้วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐเท็กซัส และนักเขียนการ์ตูนชาวนิวยอร์ก ที่ถูกทรัมป์บล๊อค หลังวิพากษ์วิจารณ์นโยบายต่างๆของทรัมป์
ทีมกฎหมายของทรัมป์แก้ต่างว่า ตอนที่ทรัมป์บล๊อคผู้ใช้ทวิตเตอร์เหล่านี้ เขาไม่ได้โพสทวีตในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ศาลระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ และสมาชิกรัฐบาล ต่างพูดถึงการใช้บัญชีทวิตเตอร์ของทรัมป์ @realDonaldTrump ว่าเป็นทางการ ซึ่งศาลเห็นว่าหลักฐานว่าบัญชีผู้ใช้ของทรัมป์เป็นทางการนั้นท่วมท้น และศาลเห็นว่าเมื่อประธานาธิบดีเลือกใช้แพลตฟอร์มนี้ และเปิดให้มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ทวิตเตอร์นับล้าน เขาไม่สามารถที่จะเลือกกีดกันคนที่มีความเห็นต่างจากเขาได้
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงยุติธรรม เคลลี่ ลาโค ระบุว่าผิดหวังกับคำตัดสินของศาล และกำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะข้อโต้แย้งคือ การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะบล๊อคใครจากบัญชีส่วนตัวของเขา ไม่ใช่การละเมิอดรัฐธรรมนูญว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงออก