สหรัฐยังคงเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 20 รายแล้ว
จากสภาพอากาศในพื้นแถบตะวันตกตอนกลางของสหรัฐที่กำลังหนาวจัด จากการที่ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ หรือ ลมวนขั้วโลก พัดเข้าสู่พื้นที่ ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 20 รายแล้ว โดยพวกเขาเสียชีวิตจากอากาศที่หนาวจัด รวมถึงอุบัติเหตุบนท้องถนน ขณะที่หลายโรงพยาบาลได้ทำการรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บผิวหนังเป็นแผลจากการสัมผัสกับอากาศที่หนาวจัดเป็นจำนวนมาก
ชาวอเมริกันราว 250 ล้านคน ต้องเผชิญอากาศหนาวจัดจาก ลมวนขั้วโลก ซึ่งในจำนวนนี้มี 90 ล้านคนที่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิหนาวเย็นที่ติดลบ 17 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่านั้น แต่รัฐทางตอนใต้ของประเทศอย่าง ฟลอริดา รอดพ้นจากสภาพอากาศอันเลวร้ายครั้งนี้
มีการคาดการณ์ว่าวันพฤหัสฯตามเวลาท้องถิ่น เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐอย่าง นครชิคาโก อาจเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัดจนทำลายสถิติเมื่อปีค.ศ. 1985 ที่ติดลบ 32 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ในหลายเมืองทั่วรัฐไอโอวาก็ได้ทำลายสถิติอากาศหนาวที่สุดไปแล้ว ส่วนเมืองคอตตอน รัฐมินนิโซตา เป็นพื้นที่ที่หนาวที่สุดในวันพฤหัสฯ โดยวัดอุณหภูมิได้ที่ติดลบ 48 องศาเซลเซียส
ส่วนพื้นที่ใกล้กับเมืองบัฟฟาโล นครนิวยอร์ก อาจจะมีหิมะตกหนักที่สุด อย่างไรก็ตาม คาดว่าสภาพอากาศที่หนาวจัดจะเริ่มอุ่นขึ้นในวันศุกร์ตามเวลสท้องถิ่น และช่วงสุดสัปดาห์อุณหภูมิในนครชิคาโกอาจพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียส
สภาพอากาศที่หนาวจัดในครั้งนี้ยังส่งผลให้ไปรษณีย์สหรัฐไม่สามารถออกให้บริการได้ในหลายพื้นที่ อีกทั้งยังมีเที่ยวบินมากกว่า 4,000 เที่ยวยกเลิกในช่วงสามวันที่ผ่านมา นอกจากนี้หิมะและน้ำแข็งที่ทับถมกันบนถนนก็ยิ่งทำให้การสัญจรด้วยยานพาหนะเป็นอันตรายมากขึ้น