เมื่อยอดไลค์ ยอดวิวในโซเชียลสำคัญกว่าความเป็นมนุษย์ คอนเทนต์การกลั่นแกล้งลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์จึงเกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องปกติ เพราะมีผู้คนบางกลุ่มชื่นชอบและยังเสพคอนเทนต์แนวนี้
กรณีของ ‘แบงค์ เลสเตอร์’ ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะในอดีตเกิดขึ้นเหตุการณ์ที่คล้ายกันมามากมาย กลั่นแกล้งจนเกิดการสูญเสียขึ้นจริง
ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ‘ทิโมที วิลค์’ หนุ่มอเมริกันวัย 20 ปี กับเพื่อนรวม 5 คน พร้อมอาวุธมีด ร่วมกันถ่ายทำคลิปวีดิโอเพื่อเผยแพร่ผ่านช่อง YouTube โดยเนื้อหาของคอนเทนต์ เป็นการแกล้งปล้น ที่บริเวณลานจอดรถแห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซี ‘เดวิด สตาร์เนส จูเนียร์’ อายุ 23 ปี ผู้ถูกแกล้ง ไม่ทราบว่านี่คือการแกล้งเพื่อถ่ายทำวีดิโอ จึงใช้อาวุธปืนยิงปกป้องตัวเอง เป็นเหตุให้ นายทิโมที วิลค์ เสียชีวิต
ที่ประเทศอังกฤษ พยาบาลสาว ‘จาซินธา ซัลดานา’ วัย 46 ปี จากโรงพยาบาล King Edward VII ถูก 2 ดีเจของสถานีวิทยุ ‘Sydney's 2Day’ ประเทศออสเตรเลียโทรฯ แกล้งปลอมเสียงเป็น ควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายชาลส์ เพื่อติดตามอาการของ ‘เคท มิดเดิลตัน’ เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งในขณะนั้นกำลังมีพระอาการแพ้พระครรภ์ และพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าว
เธอเชื่อว่าปลายสายคือคนจากราชวงศ์จริงๆ เธอจึงโอนสายไปให้นางพยาบาลที่ดูแลโดยตรง แต่คลิปเสียงของเธอถูกนำไปถ่ายทอดสดทางวิทยุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เธอรู้สึกผิด ที่หละหลวมในการทำหน้าที่ เธอจึงตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง 3 วันหลังเกิดเหตุ ถึงแม้ดีเจทั้งสองคนจะรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เขาไม่สามารถนำชีวิตของจาซินธา กลับมาได้
ที่สหรัฐอเมริกา ‘แทนเนอร์ คุก’ หนุ่มวัย 21 ปี กำลังถ่ายทำคลิปวีดิโอกลั่นแกล้งคนแปลกหน้าภายในห้างสรรพสินค้า ดูลส์ทาวน์ เซ็นเตอร์มอลล์ รัฐเวอร์จิเนีย แต่ไปเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกับ ‘อลัน โคลี’ เพราะเขาไม่ได้ยินยอมให้แกล้ง จึงไม่พอใจ เขาใช้อาวุธปืนยิงแทนเนอร์ คุก กระสุนเข้าไปที่ท้อง ทะลุเจาะตับ ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูหลายวัน เพื่อรักษาชีวิตตัวเอง
สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าการทำคอนเทนต์กลั่นแกล้งคน บางครั้งก็อาจเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นได้ ทั้งเสียชีวิตโดยไม่ตั้งใจ เสียชีวิตจากการจบชีวิตตัวเอง หรือเสียชีวิตจากบันดาลโทสะ
ถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่คอนเทนต์แบบนี้ควรหมดไปจากโลกออนไลน์?