พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บนทาง 3 แพร่ง อยู่ต่อ ยุบสภา หรือลาออก ?

สถานการณ์วิกฤตโควิดระบาดหนัก สร้างผลกระทบที่รุนแรงให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าในกรณีสุดวิสัย อันนี้ก็ไม่รู้จะโทษใคร

แต่หากเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาด ผิดซ้ำผิดซาก ซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว ให้ย่ำแย่ลงไปอีก ก็เป็นสิ่งรัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องออกมาแสดงความผิดชอบในฐานะนายกรัฐมนตรี

ในรัฐบาลที่ผ่านมา หากประเทศชาติต้องตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ ก็ยากที่รัฐบาลจะอยู่ต่อไปได้ นายกฯ ต้องเลือกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ระหว่าง ยุบสภา กับลาออก

แต่ด้วยการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีความพิเศษแตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอำนาจในการเลือกนายกฯ ของ 250 ส.ว. (บทเฉพาะกาล) ก็เป็นเงื่อนไขสำคัญ ที่ทำให้การตัดสินใจแก้วิกฤตทางการเมืองของบิ๊กตู่ จะแตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา   

ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มี 3 ทางเลือกด้วยกัน ส่วนจะเลือกหนทางใดก็ขึ้นอยู่กับว่า เป็นการตัดสินใจทำเพื่อประเทศชาติ หรือทำเพื่อตัวเอง ?

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ย้อนรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง รัฐบาลเอาไม่อยู่ นายกฯ ต้องยอมลาออก

• เปลี่ยนม้ากลางศึก ! ถ้าบิ๊กตู่ลาออก ใครบ้างมีโอกาสเป็นนายกฯ ?

• หมอสันติ ชำแหละความผิดพลาดนโยบายตรวจโควิด ก่อนปลดล็อก Antigen Test Kit

1. อยู่ต่อ

อำนาจเบ็ดเสร็จทางเมืองยังอยู่ในอยู่มือ 3 ป. อย่างมั่นคงและเหนียวแน่น ด้วยการวางเครือข่ายขุมพลังไว้อย่างครอบคลุมทุกภาคส่วนในช่วงเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้รัฐบาลจะบริหารงานผิดพลาด สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างย่อยยับ แต่ตราบใดที่ยังกุมอำนาจรัฐได้อย่างเบ็ดเสร็จ การเลือกอยู่ต่อ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินความคาดหมายนัก หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะตัดสินใจเช่นนี้

แต่การอยู่ต่อ ก็ต้องคำนึงถึงความสง่างามด้วย หากอยู่ไปแต่ไร้ศักดิ์ศรี การพอแค่นี้ ก็น่าจะสร้างความชื่นชมให้กับผู้คนรวมถึงลูกหลานในอนาคตได้บ้าง อย่างน้อยๆ การยอมลง เพื่อให้ประเทศไปต่อได้ ก็ถือว่า ได้ช่วยแก้วิกฤตให้กับประเทศในระดับหนึ่ง

2. ยุบสภา

ก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ไม่มี 250 ส.ว. (บทเฉพาะกาล) ซึ่งสามารถโหวตเลือกนายกฯ ได้ หากเกิดวิกฤตทางการเมืองขึ้น ส่วนใหญ่นายกฯ ในรัฐบาลที่ผ่านมา จะตัดสินใจยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

ในกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าเลือกหนทางนี้ และต้องการรีเทิร์นกลับมาเป็นนายกฯ อีก ก็มีโอกาสสูง ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งยื่นชื่อบิ๊กตู่เป็นแคนดิเดตนายกฯ

แต่ถ้าจะให้สง่าด้วย พรรคการเมืองพรรคนั้นจะต้องชนะเลือกตั้ง มีจำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ไม่เช่นนั้น การยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้ง ก็เป็นเพียงละครตบตาประชาชน หาใช่เพื่อเป็นทางออกให้กับประเทศแต่อย่างใด

3. ลาออก  

หาก พล.อ.ประยุทธ์ เลือกหนทางนี้ นั่นก็แสดงว่า น่าจะถอดใจจริงๆ แต่ก็ยังสามารถรักษาฐานอำนาจของกลุ่ม 3 ป. และเครือข่ายไว้ได้ เพราะ 250 ส.ว. ตามบทเฉพาะกาล 5 ปี ยังมีอภิสิทธิ์ในการโหวตเลือกนายกฯ

แต่เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว จึงไม่สามารถเสนอคนอื่นเป็นนายกฯ ได้อีก

ทางออกกรณีนี้ของพรรคพลังประชารัฐก็คือ การเสนอชื่อนายกฯ คนนอก ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. และ ส.ว. เกินครึ่งหนึ่งของสภา หรือ 376 คนขึ้นไป

แม้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จะบริหารงานผิดพลาด จนทำให้สถานการณ์โควิด-19 ย่ำแย่ ลุกลาม และบานปลาย แต่ประชาชนก็หวังว่า อย่างน้อยๆ ในการเลือกครั้งนี้ บิ๊กตู่จะเลือกหนทางที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อเป็นทางออกจากปัญหา ให้กับประเทศชาติได้...