ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Facebook (Meta) ที่จะปรับอัลกอริทึมที่จะทำให้หน้าฟีดที่คนทั่วโลกใช้อยู่ทุกวันเปลี่ยนไป ซึ่งทำให้คนที่ใช้เฟซบุ๊กทุกคนอาจต้องปรับตัว
หน้าฟีดและการแจ้งเตือนจะไปที่ภาพและวีดีโอมากขึ้น หน้าตาคล้าย ‘TikTok’ โดยจะผสม Reels ของ Instagram และ Facebook Stories ไว้ด้วยกัน
แยกหน้าฟีดเป็นสองรูปแบบโดยหน้า ‘Home’ ระบบ AI จะแนะนำเนื้อหาอื่นๆที่ไม่ได้มาจากเพื่อนหรือคนที่คุณติดตาม และเพิ่มแถบใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Feeds’ โดยแถบนี้จะรวบรวมโพสต์จากเพื่อน กลุ่ม เพจ และอื่นๆ เรียงลำดับจากโพสต์ล่าสุด และสามารถปรับแต่งได้
ระบบ AI ใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Discovery Engine’ จะแนะนำคอนเทนท์ใหม่ๆให้เราในหน้าฟีดส่วนตัว โดยอิงจากสิ่งที่คุณสนใจเช่น กดถูกใจ กดแชร์ หรือประวัติข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ
นำปุ่มแชท ‘Messenger’ ไปอยู่ด้านขวาบนของแอปฯ เพื่อทำให้เกิดการสนทนาบ่อยขึ้นและรวมอยู่ในแอปเดียว จากที่เคยต้องใช้ 2 แอป
เริ่มอัปเดตการเปลี่ยนแปลงหน้าฟีดนี้ จะใช้กับผู้ใช้งานในสหรัฐฯก่อน คาดขยายให้ผู้ใช้งานทั่วโลกสัปดาห์หน้า
ถือว่าเป็น TikTok Effect ที่น่าสนใจเพราะนี่คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ต้องนำแนวทางการเลือกใช้วีดีโอสั้นมาแข่งขันกัน ไม่ว่าจะเป็น YouTube Shorts หรือ Instagram Reels
งานวิจัยได้ออกมาอย่างชัดเจนว่า ช่วงสามเดือนแรกของปี 2022 นี้ ผู้ใช้ iPhone โดยเฉลี่ยใช้เวลาบน TikTok มากกว่า Facebook ถึง 78 เปอร์เซ็นต์
จากการวิเคราะห์ของนักการตลาดและคนทำเพจเฟซบุ๊กหลายคนได้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งอัลกอริทึมนี้ทำให้คนที่ทำ Organic Content สามารถเข้าถึงคนได้มากขึ้น โดยไม่ต้องลงโฆษณา ส่วนคนที่เคยลงโฆษณาต่างๆกับเฟซบุ๊กจะต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ที่มีหน้าฟีดแยกเป็น 2 ฟีด
เหตุการณ์คล้ายแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ Facebook ต้องการทำ Stories เหมือนกับ Snapchat และเขาคิดว่าไม้ตายครั้งนี้จะกลับมาดึงดูดผู้ใช้งานได้เหมือนเคยโดยนำหลักการของ TikTok มาใช้ในการปรับอัลกอริทึมครั้งนี้
ที่มา : theverge.com (21/07/2022)