SHORT CUT
ผู้คนเริ่มกังวล Panic เมื่อแบตเตอรี่มือถือเหลืออยู่เฉลี่ย 38% ซึ่งบางคนอาจมองว่าเป็นระดับที่ “เผื่อไว้” เพราะยังมีพลังงานเหลือมากกว่าหนึ่งในสาม
techspot เปิดเผยผลสำรวจ แบบสำรวจออนไลน์โดย Talker Research พบว่า ชาวอเมริกันเริ่มกังวล Panic เมื่อแบตเตอรี่มือถือเหลืออยู่เฉลี่ย 38% ซึ่งบางคนอาจมองว่าเป็นระดับที่ “เผื่อไว้” เพราะยังมีพลังงานเหลือมากกว่าหนึ่งในสาม ตัวอย่างเช่น iPhone มักจะเริ่มแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำกว่า 20%
ในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกัน 2,000 คน ส่วนใหญ่บอกว่าพวกเขารู้สึกตื่นตระหนกก่อนที่การแจ้งเตือน 20% ของ Apple จะปรากฏขึ้น โดยป๊อปอัปนี้ ซึ่งแนะนำให้เปิดโหมดประหยัดพลังงาน เป็นตัวกำหนดพฤติกรรมของผู้ใช้ 34% ขณะที่กลุ่มที่ไม่ค่อยกังวล (13%) จะไม่มองหาที่ชาร์จจนกว่าแบตเตอรี่จะต่ำกว่า 10% ส่วนอีก 24% รู้สึกไม่สบายใจก่อนแบตจะลดถึงครึ่งหนึ่งด้วยซ้ำ
ยิ่งอายุเยอะยิ่งรับมือได้ เมื่อแบตมือถือเหลือน้อย
ผลสำรวจระบุอีกว่า คนรุ่นเก่ามีแนวโน้มจะกังวลเรื่องแบตเตอรี่น้อยกว่ารุ่นใหม่ คนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen Z (เกิดหลังปี 1981) เริ่มวิตกเมื่อแบตอยู่ที่ 43% โดยเฉลี่ย ตามมาด้วย Gen X (เกิดระหว่างปี 1965–1980) ที่ 38% ขณะที่กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ (เกิดระหว่างปี 1946–1964) จะเริ่มกังวลก็ต่อเมื่อแบตเตอรี่ลดลงถึง 34%
การศึกษาเดียวกันยังระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (61%) เลือกแสดงตัวเลขเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่บนหน้าจอ ในขณะที่อีก 39% พอใจกับไอคอนรูปแบตเตอรี่แบบเรียบง่ายมากกว่า
การเสื่อมของแบตเตอรี่ถือเป็นสาเหตุหลักที่สร้างความกังวลให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟน แม้ผู้ผลิตจะยังไม่สามารถหยุดยั้งการเสื่อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้ แต่การปรับปรุงผ่านซอฟต์แวร์ช่วยลดผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง