SHORT CUT
การบังคับใช้กฎหมายที่กำหนดให้ ByteDance ต้องขายหรือเผชิญกับการถูกแบน TikTok เป็นแรงผลักดันให้เกิดการเจรจาดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ซื้อที่มีศักยภาพประกอบด้วยนักลงทุนและบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจ เช่น แฟรงก์ แมคคอร์ต ซึ่งคาดว่ามูลค่าของ TikTok อาจสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์ ทำให้เกิดความคาดหวังในตลาดเทคโนโลยีระดับโลก
รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดำเนินเจรจาอย่างจริงจังกับสี่กลุ่มผู้ซื้อคุณภาพเพื่อหารือเกี่ยวกับการขายแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งอยู่ในความควบคุมของบริษัทจีน ByteDance
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบนเครื่อง Air Force One โดยยืนยันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เริ่มดำเนินการเจรจากับสี่กลุ่มผู้ซื้อ TikTok ที่มีศักยภาพในตลาดโลก เพื่อหาทางออกที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติและเศรษฐกิจดิจิทัล
การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่กฎหมายบังคับให้บริษัท ByteDance ต้องขายหรือเผชิญกับการถูกแบน TikTok ในสหรัฐฯ ได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา
กฎหมายนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานภายในสหรัฐฯ
ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไปอีก 75 วัน ทำให้มีเวลาสำหรับการเจรจาหาทางออกที่เหมาะสม
ทรัมป์ ชี้แจงว่า “เรากำลังเจรจากับสี่กลุ่มที่แตกต่างกัน และทุกกลุ่มมีข้อเสนอที่น่าสนใจ” คำกล่าวนี้สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการค้นหาแนวทางแก้ไขที่สมดุลระหว่างการคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติและการสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเทคโนโลยีระดับโลก
Reuters ยังระบุว่า ผู้ซื้อที่มีศักยภาพในการเข้าซื้อกิจการ TikTok นั้นครอบคลุมทั้งนักลงทุนระดับนานาชาติและบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจและกีฬา เช่น อดีตเจ้าของทีม Los Angeles Dodgers แฟรงก์ แมคคอร์ต ที่คาดว่ามูลค่าของแพลตฟอร์มนี้อาจสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นสัญญาณที่สำคัญในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ระหว่างความจำเป็นในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติและการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ผู้ติดตามข่าวเทคโนโลยีและนักลงทุนจึงควรจับตามองความคืบหน้าและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่ออนาคตของ TikTok ในระดับสากล
ที่มา : REUTERS