Kaspersky แนะนำ 5 ขั้นตอน ควรปฏิบัติเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลเป็นทรัพย์สินล้ำค่า การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้นบ่อยครั้งและอาจส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อทั้งบุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจ นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแคสเปอร์สกี้ (Kaspersky) เปิดเผยว่า อาชญากรไซเบอร์ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากต้นทุนการลงทุนต่ำแต่ให้ผลตอบแทนสูง ส่งผลให้ข้อมูลที่ไม่ได้รับการป้องกันอาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว การทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมาย และแม้แต่การขโมยข้อมูลประจำตัวทั้งหมด

หากคุณพบว่าข้อมูลของคุณอาจรั่วไหล หรือได้รับแจ้งจากบริษัทหรือผู้ให้บริการว่าส่วนหนึ่งของข้อมูลของคุณถูกละเมิด นั่นหมายความว่าข้อมูลของคุณอาจอยู่ในเครือข่ายมืดหรือถูกใช้ในทางมิชอบ ดังนั้น การดำเนินการกู้คืนอย่างถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

แคสเปอร์สกี้แนะนำ 5 ขั้นตอนเร่งด่วนที่ควรปฏิบัติเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล ดังนี้:

1. ตรวจสอบว่าข้อมูลใดถูกละเมิด และติดตามอัปเดตจากบริษัทผู้ให้บริการ

ข้อมูลที่มักตกเป็นเป้าหมายของการขโมย ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน อีเมล รหัสผ่าน และข้อมูลบัตรเครดิต สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบกับบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงผ่านเว็บไซต์ทางการหรือช่องทางที่น่าเชื่อถือ เพื่อตรวจสอบประเภทของข้อมูลที่รั่วไหล และติดตามมาตรการความปลอดภัยที่บริษัทนั้นๆ ดำเนินการ
 

2. เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดตข้อมูลบัญชีที่ได้รับผลกระทบ

หากพบว่าข้อมูลการเข้าสู่ระบบรั่วไหล ให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที และใช้หลักการสร้างรหัสผ่านที่แข็งแกร่ง โดยเลือกรหัสที่มีความซับซ้อน ใช้ตัวอักษรพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข และสัญลักษณ์ รวมถึงใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละบัญชี นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
 

3. เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication)

เพิ่มระดับการป้องกันให้กับบัญชีออนไลน์ของคุณด้วยการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน วิธีนี้จะช่วยให้มั่นใจว่าแม้รหัสผ่านของคุณจะถูกขโมยไป ผู้ไม่หวังดีก็ยังไม่สามารถเข้าถึงบัญชีของคุณได้โดยง่าย เนื่องจากต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติมผ่านอุปกรณ์ที่คุณเป็นเจ้าของ

4. ตรวจสอบกิจกรรมที่ผิดปกติในบัญชีทั้งหมดของคุณ

อาชญากรไซเบอร์มักใช้ข้อมูลที่ขโมยไปเพื่อตรวจสอบข้ามแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น อีเมล โซเชียลมีเดีย บัญชีธนาคาร หรือบัญชีสมาชิกบริการต่างๆ ควรเฝ้าระวังกิจกรรมที่น่าสงสัย เช่น การเข้าสู่ระบบจากสถานที่แปลกใหม่ การเปลี่ยนแปลงรหัสผ่าน หรือธุรกรรมที่คุณไม่ได้ทำ หากพบสิ่งผิดปกติ ให้รีบแจ้งฝ่ายสนับสนุนของแพลตฟอร์มนั้นๆ ทันที

5. ปกป้องข้อมูลทางการเงินของคุณ

หากข้อมูลบัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคารของคุณรั่วไหล ให้รีบแจ้งสถาบันการเงินเพื่อระงับหรือออกบัตรใหม่ทันที นอกจากนี้ คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนการทำธุรกรรม หรืออายัดเครดิตเพื่อป้องกันการใช้ข้อมูลทางการเงินโดยมิชอบ

การปฏิบัติตาม 5 ขั้นตอนนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ การเฝ้าระวังและดำเนินมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของคุณในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยภัยคุกคามเช่นทุกวันนี้