SHORT CUT
หญิงชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า “แอนน์” (Anne) ซึ่งประกอบอาชีพเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน วัย 53 ปี เปิดใจกับสื่อว่าตกเป็นเหยื่อ Romance Scam และ กลลวง AI ภัยคุกคามบนสื่อสังคมออนไลน์
“แอนน์” เปิดเผยกับรายการ Seven to Eight ทางสถานีโทรทัศน์ TF1 เกี่ยวกับอุทาหรณ์ของตัวเองที่สูญเงินเก็บทั้งชีวิตให้กับสแกมเมอร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสวมรอยเป็น “แบรด พิตต์” นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 61 ปี ก่อนหลอกให้เชื่อว่ากำลังมีความสัมพันธ์โรแมนติกกับดาราฮอลลีวูล และลวงให้โอนเงินจำนวน 850,000 ดอลลาร์หรือกว่า 29.5 ล้านบาท และทำให้ตัวเองต้องหย่าร้างกับผู้เป็นสามี
นักต้มตุ๋นรายนี้ใช้บัญชีโซเชียลมีเดียและวอตส์แอปป์ปลอม รวมถึง เทคโนโลยีการสร้างรูปภาพด้วย AI ในการส่งรูปที่ดูเหมือนเป็นภาพเซลฟี่และข้อความสื่อรักของพิตต์ให้กับแอนน์ เพื่อปอกลอกขอเงินมาในการจ่ายค่ารักษาโรคไต โดยอ้างว่า บัญชีธนาคารของตัวเองถูกระงับ เนื่องจากติดปัญหาการดำเนินคดีหย่าร้างกับ “แองเจลิน่า โจลี” อดีตภรรยา
“แอนน์” นักออกแบบตกแต่งภายในที่มีปัญหาสุขภาพจิต คบหาดูใจทางออนไลน์กับ “แบรดด์ พิตต์” ตัวปลอมเป็นเวลานานถึง 1 ปีครึ่ง และเพิ่งรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อ Romance Scam หลังทราบจากข่าวว่าเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในชีวิตจริงของดาราฮอลลีวูดรายนี้กับ “อีเนส เดอ รามอน” (Inés de Ramon) แฟนสาวคนปัจจุบัน
ผู้เสียหายเล่าว่า มีผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นแม่ของนักแสดงติดต่อมาเพียงไม่นานหลังจากเริ่มใช้อินสตาแกรมเป็นครั้งแรกระหว่างทริปเล่นสกีกับครอบครัวในฝรั่งเศส โดยในตอนแรกก็บอกกับตัวเองนี่เป็นเรื่องโกหกและไร้สาระ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับสื่อสังคมออนไลน์ จึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่เข้าใจว่ากำลังตกเป็นเหยื่อของแก๊งRomance Scam
ขณะที่หลังปรากฎเป็นข่าวออกไป สถานีโทรทัศน์ TF1 ตัดสินใจถอดบทสัมภาษณ์เหยื่อในรายการออกจากแพลตฟอร์มเพื่อปกป้องผู้เสียหาย หลัง “แอนน์” เผชิญการล้อเลียนจากผู้ใช้งานบนสื่อสังคมออนไลน์
ด้านโฆษกของนักแสดงชาวอเมริกัน เปิดเผยกับสำนักข่าวบันเทิงของสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นเรื่องเลวร้ายอย่างมากที่นักต้มตุ๋นฉวยโอกาสจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของแฟน ๆ กับคนดัง และเสริมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องเตือนใจสำคัญที่จะไม่ตอบสนองต่อการเข้าหาทางออนไลน์โดยไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากนักแสดงที่ไม่มีบัญชีของตัวเองบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่าง แบรด พิตต์
สำหรับ “Romance Scam” เป็นการหลอกให้หลงรัก หลอกให้เชื่อว่ารัก หลอกให้เชื่อใจ ให้ความหวังว่าจะแต่งงาน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป ใช้ความรักความเชื่อใจหรือความหวังของเหยื่อเพื่อแสวงหาประโยชน์ ด้วยการให้โอนเงินหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ไปให้ หรือหลอกให้กระทำผิดบางอย่าง เป็นภัยที่อยู่คู่กับอินเทอร์เน็ตนับตั้งแต่การถือกำเนิดขึ้นของอีเมล แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า AI เพิ่มความเสี่ยงในการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล การหลอกลวงและการฉ้อโกงทางออนไลน์ให้รุนแรงยิ่งขึ้น
ที่มา