SHORT CUT
รีวิว Infinix NOTE 40 Pro+ ประสบการณ์ใช้ส่วนตัว 1 เดือนเต็ม ตัวเครื่อง ดูพรีเมียมสะดุดตามากขึ้น แถมในรอบนี้รุ่นท็อปสุดยังอัปเกรดความพิเศษขึ้นในหลาย ๆ อย่าง
Infinix NOTE 40 PRO+ 5G หน้าจอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว มีขอบโค้งเล็กน้อย อัตรารีเฟรชเรท 120Hz อัตราการตอบสนองทัชสกรีน 1500Hz พร้อมมาตรฐานการแสดงเฉดสีมากกว่า 10 ล้านสี
ในระดับ DCI-P3 100% และมีอัตราการกะพริบหน้าจอ 2160 PWM Dimming ช่วยให้ถนอมสายตามากยิ่งขึ้นเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย โดยมีความสว่างหน้าจอ 1300nits เรียกได้ว่าการแสดงผลจัดเต็มทุกคอนเทนต์ สีสวยสดสมจริง
ด้านลำโพงของ Infinix Note 40 Pro+ ในรุ่นนี้ ถือว่าอยู่ในเกณท์ที่ค่อนข้างใช้ได้ แต่ว่าสายเน้นฟังเพลงไม่น่าเหมาะสักเท่าไหร่ จะออกไปทางเสียงนุ่มก็ไม่ออกไปทางเน้นเบสก็ไม่ รู้สึกไม่สุดสักทางสักเท่าไหร่ แต่เวลาดูหนังหรือคอนเทนต์อื่นๆปกติและชัดเจนดี
Infinix Note 40 Pro+ รวมถึงรุ่นอื่น ๆ ในซีรีส์มีการเปิดตัวระบบสนุก ๆ ตัวใหม่ที่มีชื่อว่า ไฟฮาโล หรือ Halo Light โดยมีตำแหน่งอยู่ที่วงกลมกลางไฟแฟลช LED แบบวงแหวน เข้าไปตั้งค่าเปิดไฟ Halo ได้ที่หน้าตั้งค่า > เปิดไฟฮาโล แล้วเลือกสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการให้ไฟติด เช่น
Infinix Note 40 Pro+ โดยส่วนตัวเมย์ค่อนข้างชอบมากๆ เล่นเกมลื่นมากๆ ด้วยความจอโค้งตอนแรกนึกว่าจะเป็นอุปสรรค แบบว่า มือไปเผลอกดโดนปุ่มอื่นมั้ย กลายเป็นว่าไม่มีปัญหานี้เลย แล้วก็ลื่นไหลมาก เข้าเกมเร็ว และ ประหยัดแบต ถ้าเล่นเกม ครึ่งชม.ก็ลดไปแค่ 1 เปอร์เซ็นต์
Infinix Note 40 Pro+ มากับชุดกล้องหลัง 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 108MP มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Macro 2MP + กล้อง Depth 2MP โดยส่วนตัวคิดว่าถ้าเอาไปถ่ายวิวและอื่นๆ จะสวยและคมมาก แต่ถ้านำมาเซลฟี่กล้องสด ยังไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ รู้สึกหน้ายังหมองเกินไปกว่าความเป็นจริง
ด้านการชาร์จเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเลย เพราะชาร์จไวจริง และค่อนข้างที่จะถนอมเครื่องด้วย เวลาเล่นเกมเครื่องไม่ร้อนทนมากๆเรื่องเกมนี่ต้องยกให้ สำหรับราคา หมื่นต้นๆนี้ ถือว่าโอเคเลย เล่นอะไรลื่น ดูอะไรก็ภาพคมชัด ถึงเรื่องสีจะแตกต่างไปบ้างแต่ก็ไม่ได้แย่ อย่างว่าเมย์ว่าเหมาะกับสายเกมเมอร์มากๆ ยังไงก็ไปซื้อมาลองใช้กันได้ NOTE 40Pro+ 5G เปิดราคาอยู่ที่ 11,999 บาท และ NOTE 40Pro ราคาเพียง 8,999 บาท เท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง