svasdssvasds

Grab จับมือ OpenAI ใช้ AI พัฒนาแอปฯรอบด้าน สั่งอาหาร-เรียกรถ ง่ายขึ้น

Grab จับมือ OpenAI ใช้ AI พัฒนาแอปฯรอบด้าน สั่งอาหาร-เรียกรถ ง่ายขึ้น

Grab Holding สตาร์ทอัประดับยูนิคอร์นสัญชาติสิงคโปร์ ได้ร่วมมือกับ OpenAI ซึ่งเป็นผู้พัฒนา ChatGPT ซึ่งจะมีการนำ AI มาใช้พัฒนาแอปฯให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

SHORT CUT

  • Grab จับมือ OpenAI ร่วมพัฒนาแอปฯ ซึ่งเทคโนโลยี AI จะช่วยให้ทำแอปฯที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้รวดเร็วขึ้น
  • ปัจจุบัน Grab มีผู้ใช้บนแพลตฟอร์มมากกว่า 40 ล้านคนต่อเดือน ครอบคลุมทั้งประเทศ 8 อาเซียนซึ่งเชื่อว่า OpenAI ต้องการเรียนรู้ภาษาในฝั่งของอาเซียนมากขึ้น
  • Grab ในปัจจุบันได้มีการนำ AI มาใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาไรเดอร์ใกล้ๆ, แปลภาษาเมนูอาหาร, หาเส้นทางที่ประหยัดเวลาที่สุด

Grab Holding สตาร์ทอัประดับยูนิคอร์นสัญชาติสิงคโปร์ ได้ร่วมมือกับ OpenAI ซึ่งเป็นผู้พัฒนา ChatGPT ซึ่งจะมีการนำ AI มาใช้พัฒนาแอปฯให้ใช้งานง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

Grab แอปฯเดลิเวอรี่สั่งอาหาร, ส่งของ ซึ่งปัจจุบันแกร็บเป็นที่รู้จักและนิยมใช้งานในไทย โดยล่าสุดได้มีการร่วมมือกับ OpenAI เพื่อจะนำเทคโนโลยี AI มาใช้พัฒนาแอปฯในรอบด้าน ซึ่งนี่ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่ OpenAI มารุกตลาดอาเซียน 

Grab นำเทคโนโลยี AI มาพัฒนาแอปพลิเคชันไม่ว่าจะเป็น คำสั่งข้อความ (Text) , คำสั่งเสียง (Voice) และยังจะนำเทคโนโลยี Recognition ของ OpenAI มาพัฒนาแผนที่ GrabMaps ด้วย 

การพัฒนาแอปฯ Grab ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จะช่วยทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้นทั้งกับผู้ใช้ทั่วไปรวมถึงผู้สูงอายุ, ผู้พิการ พร้อมทั้งยังสามารถใช้แชทบอท AI ช่วยพัฒนาระบบบริการลูกค้า (Customer Support) 

Grab มีผู้ใช้มากถึงราว 40 ล้านคนต่อเดือน ที่ทำธุรกรรมอยู่บนแพลตฟอร์ม ขยายธุรกิจมากถึง 8 ประเทศอาเซียน ซึ่ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย กัมพูชา และพม่า ซึ่งแต่ละประเทศก็มีแอปที่เป็นภาษาของตัวเอง 

การที่ OpenAI เข้ามาจับมือกับ Grab จะช่วยให้การพัฒนาแอปฯของ Grab รวดเร็วขึ้น ส่วน OpenAI ก็ได้นำ AI มาเรียนรู้ภาษาท้องถิ่นต่างๆในอาเซียนได้ง่ายขึ้น และนั่นเป็นเรื่องที่น่าสนใจเพราะดูเหมือน OpenAI จะเริ่มเข้ามารุกในธุรกิจฝั่งอาเซียนแล้ว 

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน Grab ก็ได้ใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยค้นหาไรเดอร์ที่อยู่ใกล้ลูกค้าที่สุด หาเส้นทางที่ประหยัดเวลามากที่สุด รวมถึงการแปลชื่อเมนูอาหารท้องถิ่นให้เป็นภาษาอังกฤษและจีน

ก็คงต้องต้องรอติดตามกันต่อไปว่าการที่ Grab ได้ร่วมมือกับ OpenAI ในการพัฒนาแอปฯ จะทำให้แอปพลิเคชัน Grab แตกต่างและเปลี่ยนไปจากเดิมมากแค่ไหน แต่แน่นอนว่าจะต้องใช้งานง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีอัปเดตฟีเจอร์ AI ใหม่ๆเราจะนำมาอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง 

ที่มา : Nikkei Asia

related