ออสเตรเลียใช้โดรนใต้น้ำ เทคโนโลยี AI สำรวจ Great Barrier Reef แก้ปัญหาฟอกขาว
ออสเตรเลียใช้โดรนใต้น้ำเทคโนโลยี AI สำรวจแนวปะการัง Great Barrier Reef แก้ปัญหาฟอกขาว นับเป็นการใช้เทคโนโลยีที่น่าจะทำให้ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่เกิดจาก Climate Change ดีขึ้น และแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนในการสำรวจลง
SHORT CUT
- ออสเตรเลียใช้โดรนใต้น้ำเทคโนโลยี AI สำรวจแนวปะการัง Great Barrier Reef แก้ปัญหาฟอกขาว
- โดรนใต้น้ำนี้มีชื่อว่า Hydrus จะเป็นเครื่องมือช่วยให้ การสำรวจ แนวปะการัง ฟอกขาวครั้งใหญ่ ได้ตรงจุดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวนั้น เกิดจากน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น
- โดย ถ้าหากเกิดปะการังฟอกขาวขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือ ปะการังขับสาหร่ายสีสันสดใสที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อออกมาและเปลี่ยนเป็นสีขาว แต่หากอุณหภูมิของมหาสมุทรยังคงสูงอยู่เป็นเวลานาน ปะการังก็จะตาย
ออสเตรเลียใช้โดรนใต้น้ำเทคโนโลยี AI สำรวจแนวปะการัง Great Barrier Reef แก้ปัญหาฟอกขาว นับเป็นการใช้เทคโนโลยีที่น่าจะทำให้ ปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาที่เกิดจาก Climate Change ดีขึ้น และแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนในการสำรวจลง
โดรนใต้น้ำใช้ เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยสำรวจ Great Barrier Reef เพื่อสำรวจเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวเป็นวงกว้างกำลังทำร้ายไปทั่วระบบนิเวศของแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดรนใต้น้ำนี้มีชื่อว่า Hydrus (แปลว่างูน้ำตัวผู้) ซึ่งใช้ ปัญญาประดิษฐ์เพื่อศึกษาแนวปะการัง Great Barrier Reef ของออสเตรเลียที่กำลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่ ซึ่งเกิดจากน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น
ใช้โดรนใต้น้ำทำให้การสำรวจแม่นยำ
จากความช่วยเหลือของ Hydrus โดรนใต้น้ำตัวนี้ , นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลตั้งเป้าที่จะดำเนินการสำรวจที่แม่นยำและสม่ำเสมอมากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อระบบนิเวศแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้
Melanie Olsen ผู้นำโครงการ ReefWorks ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งออสเตรเลียระบุว่า
“ตามปกติแล้ว เราเคยสำรวจแนวปะการังโดยใช้ทีมดำน้ำ อย่างไรก็ตาม ทีมดำน้ำสามารถมองเห็นจำกัดและไปได้ไกลไม่มากนัก และนั่นทำให้ต้องเพิ่มวิธีการสำรวจด้วยการใช้หุ่นยนต์ เพื่อให้สามารถขยายพื้นที่การสำรวจ และสามารถปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีสัตว์นักล่าเช่นจระเข้ และฉลามหัวบาตรและแมงกะพรุนที่พบอยูาเป็นประจำ”
โดรนใต้น้ำ Hydrus สามารถทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบเป็นระยะทางได้ประมาณ 5.5 ไมล์เป็นเวลาสูงสุด 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ซึ่งเหนือกว่านักดำน้ำทั่วไปหลายเท่า นอกจากนี้มันยังสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 10,000 ฟุต และถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง 4K
โดรนรุ่นนี้ได้รับการพัฒนาโดย Advanced Navigation และมีโมเด็มอะคูสติก โซนาร์หันหน้าไปทางด้านหน้า และระบบนำทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI
Peter Baker ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ใต้ทะเลของบริษัทกล่าวว่าเทคโนโลยีของพวกเขาถูกนำมาใช้เพื่อสร้างแผนที่ 3 มิติของแนวปะการัง
"เรากำลังทำแผนที่ปะการังร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลแห่งออสเตรเลีย และสิ่งที่พวกเขาพยายามทำคือทำแผนที่พื้นที่ปะการังเพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงภายในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้คาดการณ์และสร้างแบบจำลองแนวปะการังทั้งหมดได้ ประโยชน์ของการมีระบบหุ่นยนต์ก็คือ มันจะกลับไปยังตำแหน่งเดิมทุกครั้ง และจะถ่ายภาพเดิมจากทิศทางเดียวกันทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะบรรลุผลสำเร็จด้วยนักดำน้ำที่เป็นมนุษย์ "
การใช้การประมวลผลภาพ AI ทำให้ โดรนใต้น้ำ Hydrus สามารถจำแนกและวิเคราะห์ภาพขณะปฏิบัติงานได้ทันที
“เนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์ หมายความว่าการตัดสินใจใดๆจะต้องเกิดขึ้นที่โดรน จึงต้องใช้ AI เราจึงใช้เซ็นเซอร์ที่จะนำสิ่งต่าง ๆ เช่นฟีดภาพจากกล้องให้มันสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด"
ปะการังฟอกขาวคืออะไร ?
แนวปะการัง Great Barrier Reef ทอดยาวกว่า 1,400 ไมล์ไปตามชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลีย พบเหตุการณ์การฟอกขาวเป็นวงกว้างมาแล้วถึง 6 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1998 โดยการฟอกขาวนั้น เกิดขึ้นจากน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งทำให้ปะการังขับสาหร่ายสีสันสดใสที่อาศัยอยู่ในเนื้อเยื่อออกมาและเปลี่ยนเป็นสีขาว ปะการังฟอกขาวสามารถฟื้นตัวได้หากน้ำเย็นลง แต่หากอุณหภูมิของมหาสมุทรยังคงสูงอยู่เป็นเวลานาน ปะการังก็จะตาย
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อมโยงเหตุการณ์การฟอกขาวครั้งใหญ่กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Change
"เรากำลังอยู่ท่ามกลางเหตุการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่อีกครั้ง ซึ่งหมายความว่า Great Barrier Reef กำลังถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และนั่นคือสาเหตุที่ AIMS ลงทุนอย่างมากในการพยายามขยายระบบติดตามของเราเพื่อให้สามารถรวบรวม ข้อมูลที่ผู้มีอำนาจตัดสินใจจำเป็นต้องได้รับแจ้ง"
ที่มา : Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
