CES 2024 มหกรรมเทคโนโลยี กลายเป็นงาน ที่ AI ปัญญาประดิษฐ์ เงียบกริบ ทั้งที่ปีที่แล้วได้รับความนิยมสุด ๆ และหลายหน่วยงานเชื่อว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมขององค์กร
CES 2024 หรือ Consumer Electronics Show 2024 มหกรรมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2567 – 12 ม.ค. 2567 กลายเป็นงานที่ AI ปัญญาประดิษฐ์ ถูกพูดถึงน้อยมาก ทั้งที่ปีที่ผ่านมา Generative AI ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างอิงคำพูดของผู้สังเกตุการณ์รายหนึ่งที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยี ที่บอกว่า "เราอาจจะต้องรอปีหน้า ถึงจะได้มีโอกาสเห็น AI ปัญญาประดิษฐ์ใน แกดเจ็ต (Gadget) ต่าง ๆ"
แม้ว่าในปี 2566 ที่ผ่านมา เราจะได้มีโอกาสเห็นบริษัทต่าง ๆ เอาแนวคิดการใช้ AI มาประยุกต์ในอุปกรณ์ต่าง ๆ และทำเป็นโฆษณาให้ผู้คนพูดถึงและติดตามเป็นจำนวนมาก แต่ดูเหมือนว่าระยะเวลา 1 ปี หลังจากการเปิดตัว ChatGPT ช่วงปลายปี 2565 จะไม่เพียงพอที่จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เอาความสามารถของมันมาใช้ได้อย่างเต็มที่
Jay Goldberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ D2D Advisory ระบุว่า “เรายังคงพยายามทำให้ทุกอย่าง(ที่มีส่วนประกอบของ ปัญญาประดิษญฐ์)ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ในงาน CES 2024 สำนักข่าวรอยเตอร์ใช้คำว่า "การเปิดตัวที่ไม่ค่อยมีอะไรว้าวมากนัก" อาจเป็นการเริ่มปีที่ไม่ค่อยมงคลนัก เพราะนักลงทุนอาจตีความได้ว่า เงินทุนมหาศาลที่พวกเขาลงทุนใน AI กับบริษัทต่าง ๆ ไม่สัมฤทธิ์ผล (แม้ว่าการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์จริง ๆ ต้องใช้เวลานานก็ตาม และไม่รับประกันผลกำไรอีกด้วย)
ในวันแรกของงาน CES 2024 บริษัทสตาร์ทอัป อุปกรณ์ AI อย่าง Humane ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงาน 10 คน ก่อนวันเปิดตัวในเดือนมีนาคมของอุปกรณ์Humane AI pin เข็มกลัดปัญญาประดิษฐ์แสนรู้ แค่ขยับมือก็ทำได้เหมือนมือถือ มูลค่า 699 ดอลลาร์ หรือราว 26,000 บาท ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อทดแทนสมาร์ทโฟน โดยอ้างความจำเป็นในการปรับโครงสร้างใหม่
แม้ว่าปีนี้จะมีบริษัทเอกชนหลายรายเปิดตัว AI ในอุปกรณ์ เช่น รถ Volkswagen สั่งการด้วยเสียงได้ผ่าน ChatGPT แม้จะมีโอกาสการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดก็ตาม ขณะที่ Mojie จากจีนสาธิตแว่นตาอัจฉริยะที่แสดงภาพผ่านเลนส์แบบ AR (Augmented Reality) และมีปุ่มให้เราใช้งาน ChatGPT ในตัว
อย่างไรก็ตามเราต้องติดตามกันว่าปีนี้ บริษัทเทคโนโลยีจะปลดคนเพิ่มอีกหรือไม่ ? เพราะนักลงทุนเริ่มรู้สึกว่าเงินที่ลงไปกับ AI มันเริ่มจมและไม่มีอะไรใหม่ ๆ ออกมา หรือ เราอาจได้เห็น แกดเจ็ต (Gadget) ใหม่ ๆ ที่ใช้ AI มากขึ้นในอุปกรณ์ก็เป็นได้ แต่จากการวิเคราะห์ของหลายบริษัท มองไปในทิศทางเดียวกันว่า หากองค์กรไหนปรับใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อน ก็มีสิทธิ์ไปได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ และสร้างรายได้ได้มากกว่าองค์กรที่ไม่ใช้เลย
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง