ออสเตรเลีย ชี้ TikTok ช่วยลดการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ได้ดี
นักวิจัยชาวออสเตรเลีย เผยผลวิจัยเกี่ยวกับการหลอกลวงผู้คนบนโลกออนไลน์ พบว่า แฮชแท็ก #scamawareness ช่วยตรวจสอบกลโกงได้และ TikTok เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบว่าเป็นการโจรกรรมจริงหรือไม่
สำนักงานสถิติออสเตรเลีย (ABS) ระบุว่าสองในสามของชาวออสเตรเลียที่มีอายุมากกว่า 15 ปีต้องเผชิญกับกลโกงบนโลกออนไลน์ และในบรรดาคนเหล่านั้น มีผู้เสียชีวิต 552,000 คน จากอาชญากรรมบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้เชี่ยวชาญพยายามที่จะค้นหาวิธีป้องกันไม่ให้ประชาชน ต้องเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงประเภทใดก็ตาม หลังจากครึ่งปีแรก 2023 มีการหลอกลวงบนโลกออนไลน์กว่า 3.1 พันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว
TikTok แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแบบคลิปวิดีโอสั้นที่สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเป็นหลัก โดยมีผู้ใช้งานทั้งหมดใช้แฮชแท็กวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเรื่องหลอกลวงมีผู้เข้าชม 840.4 ล้านครั้ง และอีก 24.2 ล้านครั้งเข้าชมภายใต้แฮชแท็ก #scamawareness
Aaron Bugal นักวิจัยของ Sophos กล่าวว่า TikTok กลายเป็นช่องทางสำคัญในการช่วยตระหนักรู้ในเรื่องของความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น การขับขี่ปลอดภัย การป้องกันภัยจากการโดนทำร้ายร่างกาย หรือ การหลอกลวงทางโลกออนไลน์ เป็นต้น
“มีผู้ใช้งานจำนวนมากที่ทำคลิปแนะนำให้ระวังการหลอกลวงบางประเภท ซึ่งวิธีเหล่านั้น อาชญากรก็เข้าไปดูและปรับความสามารถในการหลอกลวงผู้คนให้ดีกว่าเดิมเช่นกัน"
Bugal กล่าวว่า วิดีโอประเภทต่างๆ บน TikTok นั้นมีเนื้อหาการนำเสนอที่หลากหลาย แต่มักจะมีธีมที่คล้ายกัน เช่น Romance Scammer การหลอกให้โอนด้วยสกุลเงินดิจิทัล และการหลอกให้โอนด้วยการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น
ซึ่งแฮกเกอร์เหล่านี้ จะเริ่มใช้กลโกงแบบใหม่ๆ เพื่อปิดกั้นคอนเทนต์ที่ช่วยเตือนภัยแบบเดิมๆ #Scamwatch ในออสเตรเลีย ถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีสำหรับคนที่โดนหลอกและเป็นเหยื่อของสแกมเมอร์
แต่ TikTok ก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยเสมอไป บน TikTok ก็ยังมีการหลอกลวงเช่นกัน จึงต้องศึกษาข้อมูลและตื่นตัวกับภัยอันตรายในการหลอกลวงอยู่เสมอ
Bugal กล่าวว่า หากมิจฉาชีพพยายามบีบบังคับ ขอเงิน หรือหลอกลวงว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ แนะนำให้รีบเก็บหลักฐานและแจ้งหน่วยงานราชการทันที อย่าเกรงกลัวคนเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม TikTok ก็ยังเป็นแพลตฟอร์มที่หน่วยงานด้านข่าวกรองของภาครัฐหลายๆ ประเทศ มีความกังวลใจว่าจะนำข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนออกไปให้แก่รัฐบาลจีนหรือไม่ ด้านรัฐบาลของออสเตรเลียก็กังวลในจุดนี้เช่นกัน และได้สั่งแบนอุปกรณ์บางอย่างของ TikTok ออกจากหน่วยงานของรัฐไปแล้วเมื่อหกเดือนก่อน
แม้ TikTok จะปฏิเสธกระแสข่าวนี้มาโดยตลอดแต่ก็ไม่สามารถลดความหวาดระแวงลงได้
อย่างไรก็ตาม คลิปสั้นบน TikTok มีส่วนช่วยให้ชาวเจน Z ตระหนักรู้ถึงภัยการหลอกลวงมากกว่าชาวเจนอื่นๆ โดยคนที่มีช่วงอายุ 18-24 ปี เสียเงินจากการโดนมิจฉาชีพหลอกบนโลกออนไลน์ประมาณ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 544,500,000 บาท เมื่อเทียบกับคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไป กลับเสียเงินจากการถูกหลอกลวงไปกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,630,000,000 บาท (ตั้งแต่มกราคม-สิงหาคม 2023)
ทั้งนี้ Bugal กล่าวว่า การปรึกษาหรือพูดคุยกับคนในครอบครัวจะเป็นการป้องกันตนเองจากภัยหลอกลวงออนไลน์ได้ดีที่สุด
"ภัยกลโกงที่มาจากนอกประเทศ แทบจะไม่สามารถขอความช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาได้เลย เพราะยากที่จะค้นหาคนเหล่านี้เจอและไม่ได้มีกฎหมายควบคุมภัยฉ้อโกงในลักษณะนี้"
ที่มา : 9News
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
