การจ่ายเงินผ่านมือถือกลายเป็นเทรนด์ยอดนิยมในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟน ยอดการใช้จ่ายผ่านมือถือทั้งแบบ อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง มีมูลค่าถึง 2,750 พันล้านบาท ส่วนโมบายแบงก์กิ้ง อยู่ที่ 6,104 พันล้านบาท เรียกได้ว่าคนไทยใช้จ่ายผ่านมือถือสูงมาก
ด้วยรูปแบบการใช้จ่ายผ่านมือถือทั้งแอปพลิเคชั่น อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง คิวอาร์โค้ด อีวอลเล็ต และเครื่องรูดบัตร ต่างก็เป็นรูปแบบการจ่ายเงินที่อำนวยความสะดวก ตามยุคสมัยที่มีการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนหรือบัตรเครดิตที่เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม
นอกจากนี้ ระบบชำระเงินออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อปกป้องข้อมูลทางการเงิน ทำให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัย
สถิติการใช้จ่ายผ่านมือถือ พ.ค.2566
ธุรกรรมการชำระเงินผ่าน Internet Banking
ธุรกรรมการชำระเงินผ่าน Mobile Banking
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ การใช้จ่ายผ่านมือถือ ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการทำธุรกรรม ค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสดและเช็ค
เครื่องรูดบัตร EDC
เครื่องรูดบัตร EDC เป็นระบบรับชำระเงินออนไลน์ทุกรูปแบบผ่านเครื่องอ่านบัตร รองรับการใช้จ่ายทั้งบัตรเครดิตและเดบิต เพียงใช้การแตะบัตรที่เครื่อง EDC ก็จ่ายเงินได้ทันที
นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังสามารถรับชำระการจ่ายเงินแบบ QR Code และอีวอลเลตได้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการใช้จ่ายแบบเป็นกระเป๋าเงินอัจฉริยะสำหรับการเติมเงินและใช้เป็นลิงก์จ่ายเงินสำหรับการใช้จ่ายบนโซเชียลมีเดียด้วย
E-Wallet
E-Wallet (อีวอลเลต) หรือกระเป๋าเงินอัจฉริยะ ที่จะเติมเงินเข้าไปในบัญชีดิจิทัลเพื่อใช้จ่าย สามารถเลือกเติมเงินสดเข้าบัญชีเงินฝากดิจิทัล หรือผูกบัญชีเพื่อตัดเงินผ่านบัญชีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตก็ได้
รูปแบบการให้บริการนี้มีหลายแอปพลิเคชั่น และใช้จ่ายได้เยอะมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Truemoney Wallet (ทรูมันนี่วอลเลต) Rabbit LINEPAY (แรบบิทไลน์เพย์) Starbuck (สตาร์บัค) ShopeePay (ช้อปปี้เพย์) เป็นต้น
ยังไม่หมดแค่นั้น การใช้จ่ายผ่านมือถือ สำหรับร้านค้าออนไลน์ยังมีอีก 2 แบบที่สามารถจ่ายเต็มหรือผ่อนชำระได้ด้วย นั่นคือ