Google เปิดโมเดล AI ตัวท็อป Gemini 2.5 Pro ให้ผู้ใช้ฟรีทุกคนลองใช้

Google ได้ตัดสินใจขยายการเข้าถึงโมเดลปัญญาประดิษฐ์ล่าสุด Gemini 2.5 Pro (รุ่นทดลอง) ให้แก่ผู้ใช้งาน Gemini ทุกระดับชั้น รวมถึงผู้ใช้บริการฟรี

โดยเริ่มมีผลทันที การเปิดให้ใช้งานเริ่มแล้วบนเว็บไซต์ gemini.google.com และจะทยอยอัปเดตให้พร้อมใช้งานบนแอปพลิเคชัน Gemini บนระบบ Android และ iOS ในเร็วๆ นี้

Gemini 2.5 Pro เพิ่งถูกเปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาในฐานะ "โมเดล AI ที่ฉลาดที่สุด" ของ Google ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสานความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ (thinking capabilities) เข้าไปในตัวโมเดลโดยตรง

แทนที่จะแยกเป็นฟีเจอร์เสริม แม้จะยังอยู่ในสถานะ "รุ่นทดลอง" (experimental) แต่ก็มาพร้อมความสามารถที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น

การทำงานร่วมกับส่วนขยาย (Extensions), การรองรับการอัปโหลดไฟล์เพื่อวิเคราะห์ และล่าสุดคือการรองรับ Canvas สำหรับการระดมสมองและสร้างสรรค์ไอเดีย

 

Google ให้เหตุผลในการตัดสินใจครั้งนี้ว่า ต้องการ "นำโมเดลที่ฉลาดที่สุดของบริษัทไปสู่มือผู้คนจำนวนมากขึ้นโดยเร็วที่สุด"

ซึ่งสอดคล้องกับประสิทธิภาพอันโดดเด่นของ Gemini 2.5 Pro (รุ่นทดลอง) ที่ปัจจุบันครองอันดับสูงสุดบนกระดานผู้นำ LMArena และมีคะแนนนำในเกณฑ์มาตรฐาน (benchmarks) ด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์

นอกจากนี้ Google ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการเขียนโค้ดของโมเดลนี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าเมื่อ Gemini 2.5 Pro พัฒนาจนถึงเวอร์ชันเสถียรแล้ว จะยังคงเปิดให้ผู้ใช้ฟรีใช้งานต่อไปหรือไม่

หรือการเปิดให้ใช้ในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทดสอบเพื่อเก็บข้อมูลในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ คาดการณ์กันว่าโมเดลที่ Google จะเปิดให้ใช้งานฟรีคือรุ่น 2.0 Flash และ 2.0 Flash Thinking

การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มที่ Google ทยอยเปิดฟีเจอร์ระดับสูงของ Gemini ให้ผู้ใช้ฟรีสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เช่น Deep Research, Gems, Saved info (ข้อมูลที่บันทึกไว้), การอัปโหลดและวิเคราะห์เอกสาร รวมถึงความสามารถในการสร้างภาพบุคคล ซึ่งก่อนหน้านี้มักจำกัดอยู่ในบริการแบบเสียเงิน

ถึงแม้ผู้ใช้ฟรีจะได้รับสิทธิ์เข้าถึง Gemini 2.5 Pro (รุ่นทดลอง) แต่ฟีเจอร์หลักที่ยังคงสงวนไว้สำหรับสมาชิก Gemini Advanced คือ Context Window ขนาดใหญ่ถึง 1 ล้านโทเค็น

ซึ่งช่วยให้ AI สามารถจดจำและประมวลผลข้อมูลจากการสนทนาที่ยาวนานหรือเอกสารขนาดใหญ่ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงขีดจำกัดในการใช้งาน (usage limits) ที่สูงกว่าผู้ใช้ทั่วไป

การประกาศครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Google ในการพัฒนาและเผยแพร่เทคโนโลยี AI สู่สาธารณะ และเป็นประเด็นที่ผู้สนใจด้านเทคโนโลยีและ AI ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป