การพัฒนาเทคโนโลยี ทั้ง Generative AI และ ChatGPT ไม่ใช่เรื่องยากที่องค์กรจะปรับตัวไม่ได้ AIS แนะนำให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ลองมองหาเทคโนโลยีที่เหมาะสม เจาะจง จับต้องได้ มากกว่าการมองหาเครื่องมือขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมแต่ใช้งานได้ไม่ครบถ้วนหรือเกิดประโยชน์
ผู้ประกอบการที่มีกว่า 3.18 ล้านธุรกิจ อุตสาหกรรมยอดนิยม 3 ประเภท แบ่งเป็น
นวชัย เกียรติก่อเกื้อ หัวหน้าส่วนงานการตลาดลูกค้าองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม AIS ได้ขึ้นกล่าวในงาน PostToday Smart SME ยุค AI เขย่าโลก ที่จัดโดย PostToday เครือเนชั่น ว่า ChatGPT ไม่ได้เก่งกว่ามนุษย์ สิ่งที่มนุษย์ควรทำคือเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และรู้จักใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับงาน
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ 15 เทรนด์เทคโนโลยีที่ BCG เคยระบุไว้ พบว่า เอไอ เป็นหนึ่งใน 5 เทคโนโลยีหลักที่ผู้คนสนใจอยากนำไปปรับใช้งาน และมองเอไอในแง่บวกมากขึ้น ต้องการที่จะนำไปปรับใช้งานมากขึ้น
"ธุรกิจมองเรื่องของเอไอและ ChatGPT ว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดเรื่องดีๆ ได้มากขึ้น แม้จะอยู่ภายใต้ความกังวลในแง่ของความใหม่ จริยธรรม และกังวลว่าจะเข้ามาทดแทนเรื่องของการเข้ามาแทนคนหรือไม่"
แต่ถ้ามองในแง่ของการทำงาน การเพิ่ม benefit ให้ธุรกิจ เพิ่ม Produtivity ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ก็กลายเป็นว่าผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจทุกระดับไม่ควรที่จะมองข้าม
อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้ที่จะเร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ นำเสนอสินค้าและบริการให้เฉพาะเจาะจง การเลือกใช้เอไอจะช่วยลดภาระต้นทุนได้ดีกว่า
ทั้งนี้ งานที่เอไอจะเข้ามาแทนที่จะเป็นในเรื่องของงานที่ต้องประมวลผลจากข้อมูลเยอะๆ การเรียบเรียง วิเคราะห์ สรุปและสร้างสรรค์ตามคำสั่งที่เราใส่เข้าไป
แต่ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และความเป็นมนุษย์ที่จับต้องได้ สิ่งเหล่านี้เอไอทดแทนไม่ได้
ดังนั้น ถ้าอยากพัฒนเทคโนโลยีและพัฒนาองค์กรตนเองให้เป็น digitalization ก็ต้องเริ่มจากการทำ Convertion จากข้อมูลขององค์กรก่อน จากนั้น Adaption กระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สุดท้ายค่อยมองหา Creation หรือโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ