ChatGPT เพิ่มยอดขาย-กำไรได้จริงไหม? การ์ทเนอร์เผย องค์กรลงทุน AI เพิ่ม
เมื่อโลกเทคโนโลยีเปลี่ยนแนวคิดผู้บริหารองค์กร ให้หันมาสนใจในการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น จากผลสำรวจของการ์เนอร์ พบว่า 70% ขององค์กรยุคใหม่ อยู่ในช่วงศึกษาและสำรวจเทคโนโลยี Generative AI อีก 19% เริ่มที่จะนำมาใช้ในการผลิต
การ์ทเนอร์ อิงค์ เผยผลสำรวจของผู้นำธุรกิจกว่า 2,500 ราย โดย 45% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ความร้อนแรงของ ChatGPT กระตุ้นให้พวกเขาเพิ่มการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า องค์กรของตนอยู่ในช่วงของการสำรวจและศึกษาเทคโนโลยี Generative AI ขณะที่ 19% นั้นอยู่ในช่วงของการทดลองหรือในช่วงของการผลิต
ฟราสซิส คารามูซิส รองประธานฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ความร้อนแรงของเทคโนโลยี Generative AI ไม่มีทีท่าลดลง ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ คิดหนักว่าจะจัดสรรงบประมาณให้กับโซลูชัน Generative AI มากน้อยแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
รวมทั้งจะเลือกลงทุนกับผลิตภัณฑ์ใดถึงจะคุ้มค่า และควรที่จะเริ่มใช้งานจริงจังเมื่อใด รวมไปถึงการเรียนรู้วิธีการลดความเสี่ยงที่มาพร้อมเทคโนโลยีนี้
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของ ChatGPT และ Generative AI ในภาคองค์กรไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ข้อมูลระดับโลกหรือภาพรวมของตลาด
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
- การ์ทเนอร์มองเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2566
- จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อมนุษยชาติต้องต่อสู้กับ AI อนาคตประเทศไทยจะยังไง
- Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว และ แว่นตาอัจฉริยะ Vision Pro
นอกจากนี้ กลุ่มผู้บริหารกว่า 68% เชื่อว่า Generative AI นั้น มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง เมื่อเทียบกับ 5% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่เห็นว่า มีความเสี่ยงมากกว่ามีประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารอาจเปลี่ยนมุมมองไปเมื่อลงทุนในระดับที่ลึกขึ้น
"ช่วงแรกๆ ความกระตือรือร้นกับเทคโนโลยีใหม่ สามารถให้แนวทางกับการวิเคราะห์ที่เข้มข้นต่อความเสี่ยงและความท้าทายต่าง ๆ ของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เนื่องจาก องค์กรต่าง ๆ มักจะพบกับคำถามด้านความน่าเชื่อถือ ความเสี่ยง ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และจริยธรรม เมื่อพวกเขาเริ่มพัฒนาและนำเทคโนโลยี Generative AI มาใช้”
นอกจากนี้ ประสบการณ์ลูกค้า คือ ปัจจัยหลักที่ทำให้องค์กรมองเรื่องของการลงทุนใน Generative AI แม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer experience) คือหัวใจหลัก ที่ผู้บริหารให้ความสำคัญสำหรับการลงทุนใน Generative AI โดยมีเพียง 17% ชี้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน (Cost Optimization) เป็นเป้าหมายหลักที่เลือกลงทุน Generative AI
หลายองค์กรที่เริ่มทดลองใช้ Generative AI และมีหลายแห่งนำไปใช้ในหลายกรณี เช่น ใช้ปรับปรุงเนื้อหาในสื่อหรือสร้างโค้ด แม้จะช่วยเพิ่มมูลค่าได้ แต่ Generative AI ยังมีศักยภาพอีกมาก ที่ช่วยเพิ่มความสามารถของมนุษย์หรือเครื่องจักร รวมถึงช่วยปรับการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทางไอทีให้เป็นแบบอัตโนมัติ
ธุรกิจรูปแบบขับเคลื่อนเองอัตโนมัติ หรือ Autonomous Business คือก้าวถัดไปครั้งใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ที่สามารถลดผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความสามารถ และแม้แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
โดย CEO และ CIO ที่ใช้ Generative AI จะพบกับโอกาสการเติบโตของรายได้อย่างมหาศาล
