โซเชียลระอุ! คนดังติดแห่แฮชแท็ก "ค่าไฟแพง" รวมกันพุ่งกว่า 5 ล้านข้อความ

บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำการเก็บข้อมูลจากเครื่องมือ ZOCIAL EYE ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2566 พบว่า #ค่าไฟ มีกระแสอย่างมากบนทวิตเตอร์ โดยมีการพูดถึงมากกว่า 3,000,000 เอ็นเกจเมนต์

รวมการพูดถึงจากทุกช่องทาง พบว่า มีข้อความมากกว่า 25,000 ข้อความ รวมทั้งสิ้นคิดเป็นเอ็นเกจเมนต์รวมเกือบ 5,000,000 เอ็นเกจเมนต์ เฉลี่ยแล้วมีเอ็นเกจเมนต์ต่อวันมากกว่า 700,000 เอ็นเกจเมนต์

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลในแฮชแท็ก #ค่าไฟ และ #ค่าไฟแพง พบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลจากทางช่องทาง Twitter เป็นหลัก เพื่อติดตามประเด็นปัญหาร้องทุกข์ที่ประชาชนประสบพบเจอโดยตรง

ทั้งนี้ แนวทางความคิดเห็นส่วนมากเป็นไปในแง่ลบ คิดเป็น 73.4% รองลงมาความคิดเห็นแบบเป็นกลาง 17.55% และในแง่บวก 9.05%

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• ผู้ว่ากฟผ. ชี้แจงสาเหตุค่าไฟแพง เพราะอากาศร้อนเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนัก
• พปชร.ฉะรัฐบาลประยุทธ์ทำค่าไฟแพง ไทยมีไฟฟ้าสำรองสูง-ล้มเหลวในการบริหาร
• เปิดนโยบายพรรคการเมือง ลดค่าไฟ เลือกตั้ง 66 บิลค่าไฟแพงเกินเบอร์เหลือเกิน

นอกจากนี้ เมื่อดูกระแสที่คนพูดถึง 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย

1. เหตุผลของ #ค่าไฟแพง และสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง
2. ลด  #ค่าไฟ ไม่ได้ แก้ปัญหาเองเลยแล้วกัน
3. ประชาชนเสีย #ค่าไฟ แต่บางบริษัทได้กำไรจากสิ่งนี้!
4. ถ้าคุณไม่สนใจการเมือง การเมืองจะมาหาคุณถึงหน้าตู้ไปรษณีย์

 

ทั้งนี้ จากกระแสที่ทุกคนพูดมาก ถูกโยงเข้ากับเรื่องการเมืองตรงที่ภาครัฐแก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด ทำให้ชาวเน็ตเลือกที่จะหาวิธีลดค่าไฟฟ้าด้วยตนเอง

เนื้อหาระบุว่า หลายคนพยายามให้ความรู้เรื่องที่มาของ #ค่าไฟแพง ว่าเป็นผลจากการที่ภาครัฐบาลยุคก่อนหน้าทำสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเอกชนรายใหญ่ และทำให้แผนการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยนั้น ล้นเกินการสำรองไปอย่างมหาศาล

รัฐบาลปัจจุบันเองก็ไม่สามารถที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติมไปอีก 10 ปี ภาระต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นจึงตกเป็นของประชาชนซึ่งต้องเผชิญกับค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นทุกปี 

อีกประเด็นคือ ใน 4 เดือนข้างหน้าค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นอีก โดยการไฟฟ้านครหลวง ชี้แจงว่าค่าไฟฟ้าผันแปร Ft เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม จะเท่ากับ 98.27 สตางค์ต่อหน่วย ไม่รวม VAT โดยเดือนนี้ค่า Ft 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ไม่รวม VAT โดยเน้นให้ทุกคนตรวจค่าไฟให้ดีเพราะมีหลายคนที่ตรวจสอบเลขหน่วยที่เกิดขึ้นและพบว่าผิดไปจากความเป็นจริง

เมื่อตรวจสอบในเว็บไซต์การไฟฟ้านครหลวง เกี่ยวกับสถิติค่า FT พบว่า อัตราค่า FT ขายปลีก นั้น จะเพิ่มขึ้นในช่วงพ.ค.-ส.ค. 2566 นั้นเป็นความจริง 

ดังนั้น วิธีการแก้ไขปัญหาที่ประชาชนหาทางออกคือ การประหยัดไฟด้วยตนเอง เช่น ข่าวหนุ่มพิษณุโลก ตัดสินใจเรียนรู้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์จากอินเทอร์เน็ตและพัฒนาติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพิ่มจนเปิดแอร์ได้ 4 ตัวและเสียค่าไฟไปเพียง 71 บาท เท่านั้น

หรือนำเทคนิคการประหยัดค่าไฟแอร์ด้วยพัดลมจากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่วิธีที่คนสนใจคือการติดตั้งโซลาเซลล์

ปิดท้ายด้วยเรื่องของประเด็นทางการเมือง อย่างเช่น การแสดงความไม่พอใจที่ต้องแบกรับต้นทุนค่า FT เพิ่ม นายทุนรวย ประชาชนจนลง รวมทั้งการเลือกตั้ง ควรเลือกพรรคที่มีการจัดการนโยบายด้านนี้อย่างเหมาะสมและไม่สร้างภาระให้แก่ประชาชน เป็นต้น