ฟูจิฟิล์ม เดินหน้ารุกหนักในธุรกิจ Healthcare เต็มสูบ ด้านนวัตกรรมภาพถ่ายทางการแพทย์และเทคโนโลยี AI และ IT เพื่อการวินิจฉัยโรค ตั้งเป้าสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีของคนทั่วโลก ด้วยคอนเซปต์ One Stop, Total Healthcare Solution
ฟูจิฟิล์ม ในฐานะผู้นำธุรกิจเฮลท์แคร์ ได้นำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์กว่า 80 ปี มายกระดับวงการแพทย์ไทย
โดยเชื่อมต่อบุคลากรทางการแพทย์กับโลกแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด Bridging the Future of Healthcare และช่วยเหลือปัญหาสังคมเพื่อ 'ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย' พร้อมนำเสนอนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ตอบโจทย์ ดังนี้
FDR Xair เครื่องเอกซเรย์แบบพกพา
ตอบโจทย์การตรวจคัดกรองโรคนอกสถานพยาบาลของแพทย์ ด้วยน้ำหนักเพียง 3.5 กิโลกรัม ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ใช้งานได้ในหลายพื้นที่ อย่าง การใช้ในการออกเยี่ยมผู้ป่วยในชุมชนห่างไกลของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เป็นต้น
เมื่อใช้งานร่วมกับ FDR-D EVO II แผ่น Detector ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Virtual Grid ช่วยประมวลผลภาพแบบคมชัดสูงสุด และนวัตกรรมนี้มีส่วนช่วยในการคัดกรองผู้ป่วยวัณโรคในพื้นที่ชุมชนห่างไกล ที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นการร่วมกันกับศูนย์บริการสุขภาพฯ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
นอกจากนี้เทคโนโลยี FDR Xair ยังถูกใช้ในการคัดกรองวัณโรคในพื้นที่ห่างไกลในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรู้ผลและได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
FDR Cross เอกซเรย์ดิจิทัลไร้สาย
FDR Cross อีกนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับในการตรวจวินิจฉัยระหว่างการผ่าตัด ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น FDR Cross เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลไร้สายที่มาพร้อมระบบ C-arm สำหรับการถ่ายภาพเอกซเรย์ความละเอียดสูง มีส่วนช่วยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะสามารถเปลี่ยนแผ่น Detector ตามขนาดที่ต้องการใช้งานได้
พร้อมด้วยระบบ Flurocart อัจฉริยะ และไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ฟังก์ชันการทำงานแบบ 2 in 1 ที่เป็นทั้งเครื่องเอกซเรย์ Fluoroscopy สำหรับตรวจอวัยวะภายในร่างกายแบบเรียลไทม์ และเป็นเครื่องเอกซเรย์ Radiography ดิจิทัลในหนึ่งเดียว
โดยฟูจิฟิล์มนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ มาพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่สร้างคุณค่าให้แก่สังคม ซึ่งปัจจุบันฟูจิฟิล์มขยายธุรกิจและเติบโตอย่างต่อเนื่องครอบคลุม 4 ภาคธุรกิจ ได้แก่
1. ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพ
2. ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์
3. ธุรกิจนวัตกรรมสิ่งพิมพ์เพื่อธุรกิจ
4. ธุรกิจด้านการถ่ายภาพ
โดยอันที่จริงแล้วฟูจิฟิล์มได้เข้ามาในธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพมากว่า 80 ปีมาแล้ว และได้มีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่อเนื่องมาอย่างยาวนานตามไทม์ไลน์ดังนี้
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1936 ฟูจิฟิล์ม เพียง 3 ปีหลังจากก่อตั้งบริษัท ได้นำความเชี่ยวชาญจากการผลิตฟิล์มถ่ายภาพ สู่ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟิล์มเอกซเรย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับจากวงการแพทย์ทั่วโลก
ต่อมาในปี ค.ศ.1981 ฟูจิฟิล์ม เป็นบริษัทแรกของโลกที่นำระบบดิจิทัลมาใช้แปรสัญญาณภาพเอกซ์เรย์เพื่อการวินิจฉัยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยใช้แผ่นไวแสงแบบพิเศษ
จากเทคโนโลยีแปรสัญญาณภาพเอกซ์เรย์ในปี ค.ศ.1981 นำไปสู่การสร้าง Fuji Computed Radiography (FCR) ในปี ค.ศ 1983
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2001 เป็นต้นมาเทคโนโลยีภาพถ่ายดิจิทัลทางการแพทย์ ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นการยกระดับวงการแพทย์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนทั่วโลก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฟูจิฟิล์ม จึงมุ่งบุกเบิกนวัตกรรมเพื่ออนาคตของวงการแพทย์ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ
โดยในปี ค.ศ. 2021 ฟูจิฟิล์มเดินหน้าเสริมทัพธุรกิจด้านการแพทย์และสุขภาพให้ครบวงจรยิ่งขึ้น ภายใต้เป้าหมายในการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันเฮลท์แคร์แบบครบวงจร ด้วยการเข้าซื้อธุรกิจที่เกี่ยวกับการวินิจฉัยโรคด้วยภาพของ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด (Hitachi) และเปลี่ยนชื่อเป็น Fujifilm Healthcare Corporation
หลังจากนั้นธุรกิจเฮลท์แคร์ของฟูจิฟิล์มก็แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเคย โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับการถ่ายภาพทางการแพทย์ เพราะนอกจากเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัล, กล้องส่องตรวจระบบทางเดินอาหาร, เครื่องอัลตราซาวด์, เครื่องแมมโมแกรมตรวจเอกซเรย์เต้านม
ก็ยังได้เทคโนโลยี MRI และ CT Scan มาเสริมทัพให้โซลูชันการวินิจฉัยทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มครบวงจรมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเครื่องมือเหล่านี้ได้ทำงานร่วมกับ
เทคโนโลยี AI ทางการแพทย์ของฟูจิฟิล์มอย่าง “REiLI” ก็ยิ่งยกระดับการตรวจวินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ฟูจิฟิล์มส่งต่อความเชี่ยวชาญ เสริมประสิทธิภาพวงการแพทย์ไทย
ในปี ค.ศ. 2019 บริษัท ฟูจิฟิล์ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ร่วมกับภาควิชารังสีเทคนิค คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล
เปิดศูนย์ฝึกอบรม MAHIDOL UNIVERSITY-FUJIFILM Asia Pacific Healthcare Learning Academy (MU-FAHLA) Center for Advanced Medical Imaging Informatics ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมทางด้านรังสีเทคนิคระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกแห่งแรกในประเทศไทย
ด้วยการผนึกกำลังระหว่างมหาวิทยาลัยชั้นนำของภูมิภาคและผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมการถ่ายภาพรังสีดิจิทัลและเวชศาสตร์สารสนเทศ ช่วยให้บุคลากรมีความรู้ด้านเทคโนโลยีการแพทย์และนำไปปรับใช้และพัฒนาในหลากหลายประเทศ
ในปีนี้ ฟูจิฟิล์ม ได้เดินหน้ารุกธุรกิจเฮลท์แคร์ในประเทศไทยอย่างเต็มศักยภาพ และได้โชว์ไลน์อัพโซลูชันการถ่ายภาพรังสีแบบครบวงจรภายใต้คอนเซ็ปต์ One Stop, Total Healthcare Solution ซึ่งเป็นการนำประสบการณ์อันยาวนานด้านเทคโนโลยีการประมวลภาพขั้นสูง มาเสริมทัพด้วยระบบ AI ที่ล้ำสมัย และโซลูชันด้าน IT เพื่อการวินิจฉัยโรคครบวงจร
จะช่วยให้การวินิจฉัยทางการแพทย์มีประสิทธิภาพและความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพรังสีกว่า 80 ปี จะมาเสริมศักยภาพวงการแพทย์และสาธารณสุขในประเทศไทยให้ก้าวไกลอย่างรวดเร็ว
ด้าน มร. โซ มารูโอะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย มุ่งดำเนินงานให้สอดคล้องกับพันธกิจพื้นฐานของบริษัทในการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาทางสังคมและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมที่ยั่งยืน
นอกจากนี้หนึ่งในเป้าหมายหลักภายใต้แผนการส่งเสริมคุณค่าที่ยั่งยืนในปี 2030 (SVP2030) ขององค์กร คือการปรับปรุงการเข้าถึงการดูแลรักษาพร้อมช่วยลดภาระในการดูแลผู้ป่วย เพื่อยกระดับวงการสาธารณสุขและคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลก รวมถึงชาวไทย ฟูจิฟิล์ม จึงเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมและโซลูชันที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพทางการแพทย์เพื่อการวินิจฉัยโรคมาโดยตลอด
ฟูจิฟิล์ม ไม่หยุดยั้งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาทางสังคมของประเทศไทย โดยเฉพาะการเพิ่มโอกาสโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่มีคุณภาพ โดยการร่วมมือกับทั้งภาครัฐและพันธมิตร เพื่อนำโซลูชันทางการแพทย์มาให้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และแม่นยำยิ่งขึ้น และเพื่อให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีขึ้น ภายใต้แคมเปญระดับโลก NEVER STOP