svasdssvasds

ลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียน ใช้เทคโนโลยี แก้ได้แค่ปลายเหตุ ต้องเริ่มที่คน

ลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียน ใช้เทคโนโลยี แก้ได้แค่ปลายเหตุ ต้องเริ่มที่คน

หลังจากกรณีการลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียนจนเสียชีวิต ซ้ำซาก หลายฝ่ายต่างพยายามหาทางออก รมว.ดิจิทัลฯ ก็เสนอใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหานี้ แต่ในโลกความจริงจะแก้ได้แค่ไหน ? ถ้าไม่ได้แล้วต้องเริ่มยังไง ?

ก็ต้องบอกว่ากรณีที่การลืมเด็กไว้ในรถจนนำไปสู่การเสียชีวิต หรือได้รับผลกระทบทางจิตใจ เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเมื่อปี 2019 คนขับรถโรงเรียนชาวตุรกี ก็เคยลืมเด็กไว้ในรถ และในสหรัฐฯเองก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ดร.เดวิด ไดมอนด์ นักประสาทวิทยา ภาควิชาจิตวิทยา ที่มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา กล่าวในงาน STN Expo และถูกรายงานผ่านเว็บไซต์ BusAndMotorcoachNews.com ว่า จากสถิติของกรมสามัญศึกษา รัฐอินเดียนา พบว่า 30% ของคนขับรถโรงเรียนที่ลืมเด็กไว้ ไม่ได้เดินตรวจรถว่ามีเด็กถูกลืมไว้หรือไม่ , 20% คนขับรถต้องไปทำอย่างอื่นต่อจนไม่ได้ใส่ใจในจุดนี้ และมีเพียงแค่ 10% เท่านั้นที่เดินตรวจแล้วไม่เจอ

ดร.เดวิด เขาเน้นย้ำว่า สถิตินี้ไม่ใช่ข้ออ้างให้คนไร้ความรับผิดชอบไม่ต้องรับความผิด แต่มันแสดงให้เห็นว่าการละเลยการกระทำอะไรบางอย่างก็นำไปสู่ผลลัพธ์ที่อันตรายได้

 

อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ

เด็กที่ถูกลืมไว้ในรถโรงเรียน จากการศึกษา ดร.เดวิด พบว่า ส่วนใหญ่อาจมีอาการ PTSD (Post-traumatic Stress Disorder) หรือ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ และฝังใจพวกเขาไปตลอดชีวิต

ก่อนหน้านี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) มอบหมายให้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เริ่มโครงการ Smart School Bus ติดเซ็นเซอร์ ติดกล้อง ติดปุ่มกดฉุกเฉินไว้ในรถโรงเรียนของรัฐ นำร่อง 3,500 คัน ทั่วประเทศ

แม้จะเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาลืมเด็กไว้ในรถโรงเรียนที่เกิดขึ้น แต่การใช้ชีวิตถ้าหากเราพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปก็อาจส่งผลอันตรายตามมาก็ได้ เพราะอาจทำให้เราละเลยการตรวจตรารถโรงเรียนลงไป

การนำร่องรถโรงเรียนอัจฉริยะ 3,500 คัน เป็นเรื่องที่ดีแต่อาจเป็นการแก้ไขที่ปลายเหตุ เพราะถ้าคนที่รับผิดชอบ มีมาตรการรองรับที่ดี มีรายชื่อมีขั้นตอนในการตรวจนับและตรวจสอบเด็กนักเรียนที่ดีตั้งแต่ต้น เทคโนโลยีก็เป็นเพียงอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น

หากย้อนไปที่ข้อมูลของ ดร.เดวิด จะพบว่า หากคนขับรถทำตามขั้นตอนที่มีการวางไว้อย่างเคร่งครัด เช่น เมื่อถืงโรงเรียนให้ตรวจสอบรถอย่างละเอียด นับจำนวนก่อนขึ้นและลงจากรถ ก็จะสามารถลดช่องโหว่ได้ถึง 50% และหากมีเทคโนโลยีเข้ามาก็จะช่วยลดโอกาสการเกิดเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถจนเสียชีวิตแบบนี้ลงได้เพิ่มขึ้นตามมาเช่นกัน

related