SHORT CUT
ฮอนด้าและนิสสันประกาศแผนควบรวมกิจการครั้งประวัติศาสตร์ ภายในปี 2569 หวังผนึกกำลัง รับมือการแข่งขันดุเดือดจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BYD และ Tesla
Honda ประกาศจับมือ Nissan อย่างเป็นทางการ เหตุการณ์ควบรวมครั้งนี้จะก่อเกิดบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ อันดับ 3 ของโลก รองจาก Toyota และ Volkswagen ด้วยยอดขายรวมกว่า 8 ล้านคัน
มิเบะ โทชิฮิโระ ซีอีโอ ของฮอนด้า เผยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ใช่การ “ช่วยเหลือนิสสัน” แต่เป็นการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ
เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน : การรวมทรัพยากร เทคโนโลยี และฐานการผลิต จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ขยายตลาด : เครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วโลกของทั้งสองบริษัท จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ
เสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน : การควบรวมกิจการจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการระดมทุน เพื่อลงทุนใน R&D และการขยายธุรกิจในอนาคต
Mitsubishi ซึ่งนิสสันถือหุ้นใหญ่ อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าร่วมและจะประกาศการตัดสินใจภายในสิ้นเดือนมกราคม 2568 และบริษัทโฮลดิ้งใหม่จะมีกำหนดจัดตั้งขึ้นภายในเดือนสิงหาคม 2569
Honda ซึ่งมีมูลค่าตลาดสูงกว่า จะเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทส่วนใหญ่
คาร์ลอส กอส์น อดีตประธานนิสสัน แสดงความกังวลว่า การควบรวมกิจการอาจไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก ฮอนด้าและนิสสัน มีลักษณะธุรกิจที่ไม่สอดคล้องกัน
Renault ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของนิสสัน เปิดกว้างสำหรับการควบรวมกิจการ และกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ
Foxconn บริษัทไต้หวันที่ต้องการขยายธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เคยเสนอซื้อกิจการนิสสัน แต่ถูกปฏิเสธ
การควบรวมกิจการระหว่างฮอนด้าและนิสสัน ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ และเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการแข่งขันที่ดุเดือด ในยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ความสำเร็จของการควบรวมกิจการครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ความสามารถในการผสานธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร และการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
ที่มา : REUTERS