NIO Power Swap โชว์สถิติสลับแบตฯ ครบ 50 ล้านก้อน มีสถานีกว่า 2,479 แห่งในจีน

NIO ได้พูดถึงความประหยัดและความสะดวกสบายของการใช้งานสถานีสลับแบตเตอรี่ Power Swap Station ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากถึง 20,300 ล้านหยวน หรือราวๆ 97 ล้านบาท เมื่อเทียบการใช้รถเชื้อเพลิงเบนซิน ซึ่งเราอยากชวนมาดูกันว่าในปัจจุบันการใช้สถานีสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในจีนไปไกลแค่ไหนแล้ว

NIO ได้เริ่มสร้างสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่แห่งแรก ตั้งแต่ปี 2561 โดยมุ่งมั่นเดินหน้าสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีต้นทุนสูง ท่ามกลางแรงกดดันของวงการยานยนต์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมานานหลายปี

NIO Power Swap Station ได้บรรลุยอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ครบ 50 ล้านก้อนแล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญและความสำเร็จในการริเริ่มใช้งานการสลับแบตเตอรี่กับรถยนต์ไฟฟ้า 

เหตุการณ์สำคัญครั้งนี้หมายความว่าระบบสลับแบตเตอรี่ของ NIO ได้มอบพลังงานไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 2.62 พันล้าน kW/h เพียงพอต่อการจ่ายไฟให้กับครัวเรือนมากกว่า 1.31 ล้านครัวเรือนเป็นเวลาหนึ่งปี 

จนถึงปัจจุบัน NIO มีสถานีเปลี่ยนแบตเตอรี่ 2,464 แห่งในประเทศจีน ซึ่ง 825 แห่งตั้งอยู่ริมทางหลวง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงการครอบคลุมในเรื่องการบริการได้อย่างแน่นอน

ผู้คนเริ่มหันมาใช้งาน NIO Power Swap Station จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หันมาใช้บริการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่แทนการชาร์จที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า โดย NIO กล่าวว่าเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่รถยนต์ Nio ได้รับมาจากสถานีสลับแบตเตอรี่

NIO ยังได้เผยว่าการให้บริการสลับแบตเตอรี่ ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาได้มากกว่า 2.85 พันล้านนาที เมื่อเทียบกับการชาร์จที่สถานที่สาธารณะ โดยบริษัทยังได้รายงานอีกว่ารถยนต์ Nio 1 คันได้รับการชาร์จแบตเตอรี่เต็มจากสถานีเหล่านี้เฉลี่ยทุก 1.1 วินาที

ปัจจุบัน NIO's Power Swap Station 4.0 ล่าสุด มาพร้อมกับ LiDARs 6 ตัวแบบ ultrawide-FOV และชิป Orin X 4 ตัว ทำให้มีกำลังการประมวลผลทั้งหมด 1,016TOPS ผู้ใช้สามารถเริ่มการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่อัตโนมัติได้เพียงแตะที่หน้าจอกลางหรือแม้กระทั่งไม่ต้องอยู่ในรถ สถานีใหม่นี้สามารถทำการสับเปลี่ยนได้ภายใน 144 วินาที ซึ่งเร็วขึ้น 22% เมื่อเทียบกับ ก่อนหน้านี้ 

มาพร้อมช่องเก็บแบตเตอรี่ที่ขยายขึ้นเพื่อรองรับแบตเตอรี่ 23 ก้อน แต่ละสถานีสามารถให้บริการสับเปลี่ยนได้สูงสุด 480 ครั้งต่อวัน ซึ่งทั้งความเร็วและความจุถูกยกระดับไปอีกขั้น

NIO Power Swap หรือสถานีสลับแบตเตอรี่ของ NIO ได้เข้ามาตอบโจทย์ในช่วงเวลาเร่งด่วนสำหรับการเดินทาง เช่น วันหยุดวันชาติในประเทศจีน เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ของ NIO ที่ช่วยให้สะดวกสบายขึ้นมากเมื่อเทียบกับการชาร์จที่สถานี

อีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจคือสถานีสลับแบตเตอรี่ของ NIO แม้จะมีคนหันมาใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เวลาเฉลี่ยสำหรับการสลับแบตเตอรี่ก็ยังคงอยู่ที่ประมาณ 9-10 นาที ซึ่งรวดเร็วไม่ต่างกับการจอดรอคิวเพื่อเติมน้ำมัน

เหตุผลง่ายๆที่การสลับแบตเตอรี่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีกว่าสถานีชาร์จ ได้ดังนี้ เพราะการสลับแบตเตอรี่ของ NIO Power Swap สามารถทำได้ในเวลาไม่เกิน 12 นาที (รวมเวลาต่อคิว) เทียบกับการชาร์จแบตเตอรี่จากสถานีชาร์จที่ต้องใช้เวลาน้อยที่สุดราวๆ 30-40 นาที จึงไม่แปลกที่คนจะหันมาใช้สถานีสลับแบตเตอรี่แทนการชาร์จแบบปกตินั่นเอง

สรุปได้ว่า "เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่ของ NIO ช่วยให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเดินทางได้ต่อเนื่องและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้ประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางมากกว่าการชาร์จแบตเตอรี่แบบเดิม" 

ปัจจุบัน NIO มีสถานีชาร์จและสถานีสลับแบตเตอรี่รวมกันมีทั้งหมด 18,839 แห่ง และสามารถใช้งานได้กับรถ EV ทุกรุ่น ไม่ใช่เฉพาะรถยนต์ Nio เท่านั้น และกำลังเร่งยังขยายสถานีสู่ฝั่งยุโรปกว่า 50 แห่ง

อนาคตเชื่อว่าหากโครงข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ครอบคลุมในจีนมากเพียงพอ ประกอบกับยังมีสถานีชาร์จร่วมด้วย ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น หมดปัญหาความกังวลเรื่องสถานีชาร์จในการเดินทางไกล ชี้ให้เห็นได้ว่าประเทศจีนจะสามารถเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้รวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆที่ยังไม่มีโครงข่ายสถานีชาร์จครอบคลุม

ย้อนกลับมาในประเทศไทยที่ผู้ใช้รถ EV ยังคงมีปัญหาเรื่องสถานีชาร์จเต็มหรือต้องรอต่อคิวนานในช่วงวันหยุดเทศกาล หากในอนาคตมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เชื่อว่ามีโอกาสที่ NIO จะเข้ามาลงทุนทำการตลาดในไทยในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆหลายด้านเช่น ภาครัฐที่ต้องสนับสนุนการลงทุน, สัดส่วนในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยที่ต้องมีมากพอ และอื่นๆอีกมากมาย 

ที่มา : CNeVPost