สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ หนุน ใช้ AI พัฒนาประเทศไทยให้เท่าทันโลก

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวถึงหัวข้อ AI เปลี่ยนโลก - ขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างไร? ในงาน SPRiNG NEXT STEP THAILAND 2024 : Next Eco-System Tech & Sustain ว่า เอไอเป็นเรื่องสำคัญเปลี่ยนโลกอย่างไรขัยเคลื่อนประเทศไทยอย่างไร ในส่วนของเรามองว่า AI เป็นหนึ่งในมิติที่เรามีภารกิจจะให้ทุนผู้ประกอบการในการนำนวัตกรรมในมิติที่หลากหลายมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การทำธุกิต การวิเคระห์พฤติกรรมของผู้บริโภค หรือแม้กระทั่งในเรื่องของความปลอดภัย

ดร.กริชผกา กล่าวว่า เราต้องมาดูกันว่า AI ขับเคลื่อนเรื่องอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันเรากังวลว่าอันไหน AI ทำ มนุษย์ถ่าย ปัจจุบันต้องยอมรับว่าภาพที่สร้างโดย AI เคยผ่านตาเราทุกคนมาแล้ว สิ่งที่ AI ทำได้คือข้อมูล โดยที่หากเราต้องการให้ AI วาดภาพเพียงคุณมีข้อมูลและป้อนข้อมูลลงไป

จะเห็นว่าปัจจุบันมีภาพที่ AI สร้างขึ้นเยอะมาก ทำให้ทำให้ธุรกิจการโฆษณาการทำสื่อมีการเปลี่ยนแปลงไปและ AI เองสามารถปรับเข้าให้กับมนุษย์ ชีวิตของเราอยู่แวดล้อมด้วย AI จริงๆ ในอนาคตหรือในปัจจุบันก็เริ่มทำกันแล้ว คือการที่ AI สามารถวิเคราะห์ข่าว ทำข้อมูล ทำ Content หรือจล่าสุดมีการใช้ AI แปลภาษาโดยมีความผิดพลาดน้อยลงเรื่อยๆ เพราะมีข้อมูลที่ป้อนให้กับ AI เพิ่มมากขึ้น ในภาคการเงิน การคาดการณ์ ได้ดีกว่ามนุษย์ หรือมองถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงได้  

ดร.กริชผกา กล่าวว่า การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า หรือในตลาดการค้าปลีก ดูเรื่องทศทางการค้าในอนาคต AI จะรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรแบบไหน หรือการลดก๊าซเรือนกระจก หรือการลดการปล่อยคาบอนไออกไซ AI ก็เข้ามาช่วยได้

ในส่วนของธุรกิจดูแลสุขภาพในช่วงสถานการณ์โควิด-19 AI สามารถเอ็กซเรย์ปลอดโดยไม่ต้องใช้หมอ AI สามารถวิเคระห์ได้เลยว่าปอดถูกทำลายหรือติดเชื้อเท่าไหร่

หรือในวงการการเงินหรือวงการแบงค์ AI สามารถทำงานได้ดีกว่าคน เขาจะเก่งในการเช็คข้อมูลตลอดเวลา

ดร.กริชผกา กล่าวย้ำว่า ความสามารถของ AI ทำให้มนุษย์กลัว ไม่ว่าการใช้ AI ออกแบบ AI แต่งเพลงได้ดีกว่าคน โจทย์ใหญ่คือปัญหาการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญหาที่ใช้ AI สร้าง เป็นปัญหาที่เห็นได้ทั่วโลก และในแต่ละประเทศก็มีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกันออกไป อะไรก็ตามที่มนุษย์มีส่วนเข้าไปให้ข้อมูล  เพลงก็เช่นเดียวกัน หากมนุษย์เป็นคนใส่ข้อมูลเข้าไปแล้วสามารถดูสัดส่วนว่ามนุษย์มีส่วนเข้าไปตรงนั้น ในทางยุโรปให้ความคุ้มครองกับคนที่สั่งการ AI

แต่ในการทำภาพยนตร์ที่ Ai ทำทุกอย่างหมดเลย อันนั้นยังไม่มีข้อถกเถียงกันว่าตัวสิทธิบัตรหรือทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นของใคร

ทำให้เห็นว่าในทุกมิติของมนุษย์จะมี AI เข้ามาเกี่ยวข้องโดยที่เรารู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

อย่างเช่นหากมนุษย์จะทำธุรกิจอย่างรวดเร็ว Microsoft เอง ก็มี Microsoft 365 Copilot สามารถเขียนบทความมานำเสนอได้ หรือทำพรีเซนต์ก็สามารถใช้ AI ช่วยได้ แต่มนุษย์ต้องช่วยตรวจสอบว่าข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ ท้ายที่สุดมนุษย์ต้องเข้ามาช่วยวิเคราะห์ แต่ AI ทำให้เราไม่ต้องไปหาข้อมูลที่เริ่มจาก 0 มันคือการต่อยอดที่ทำให้เราทำงานได้ดีขึ้น

หรือเรื่องการหาความรู้ การวิเคราะห์ของ AI ทั้งหมดอยู่ในโลกของอินเทอร์เน็ต ฉะนั้นปัญหาอย่างเดียวคือ Content ที่มีอยู่มากมายบนโลกใบนี้หรือข้อมูลที่มีอยู่มากที่สุดบนโลกใบนี้เป็นภาษาอังกฤษ

เพราะฉะนั้นจะมีช่องว่างหากสั่งให้ AI ทำงานโดยใช้ภาษาไทยจะทำให้ไม่มีประสิทธิภาพการสั่งงาน AI ด้วยภาษาอังกฤษ 

สำนักงานวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงพยายามสร้างผู้ประกอบการด้าน AI ออกมารองรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ทำให้ข้อมูลถูกต้องเพราะหากเราสอนข้อมูลให้กับ AI ด้วยข้อมูลที่ผิด ทุกอย่างก็จะผิดเช่นเดียวกัน

ต่อไปมนุษย์จะมีข้อมูลทั้งหมดเก็บไว้เป็น Data เรื่องของการเรียนรู้และการปรับใช้สกิลใหม่ๆ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ภาครัฐจะต้องนำ AI มาใช้ทำสวัสดิการที่ดีให้กับประชาชน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแพทย์ การศึกษา การบริการจากภาครัฐ บริหารจัดการเป็นสิ่งที่ AI เข้ามาช่วยได้ ในขณะเดียวกันการพัฒนาสังคม การหลอมรวมทุกกลุ่มวัยเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างวัย ระหว่างเมืองและชนบท ในอนาคตต้องให้คนตื่นรู้ว่าจะใช้ประโยชน์ AI อย่างไร ทำให้เกิดสังคมที่ลดการเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี 

ดร.กริชผกา ทิ้งท้ายว่าทุกท่านอย่ากลัว AI ใช้ประโยชน์จาก AI ให้เกิดประโยชน์ที่สุด ถ้าท่านกลัวท่านจะตกเทรนและเสียผลประโยชน์ ในเมื่อทั่วโลกและประเทศไทยขับเคลื่อนเรื่องนี้ ต้องขับเคลื่อนให้ AI เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย