Adobe ปรับราคา Creative Cloud หลังนำ AI มาใช้ เจาะตลาดอเมริกาก่อน
Adobe Creative Cloud เตรียมปรับขึ้นราคารายเดือนและรายปี โดยจะเริ่มปรับราคาเฉพาะอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง อเมริกาใต้และยุโรป ส่วนประเทศอื่นๆ ยังคงราคาเดิม
Adobe ประกาศการอัปเดตราคา สำหรับผู้ใช้งานทั้งแบบรายบุคคลและใช้เพื่องานธุรกิจ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2023 โดย ราคาของแผน Creative Cloud จะปรับขึ้นในอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และยุโรป
และในแผนราคาที่ปรับขึ้นนี้ จะไม่กระทบกับการใช้งานบนมือถือ หรือผู้ใช้งานนอกอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง อเมริกาใต้ และยุโรปด้วย
รวมทั้งยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สำหรับผู้ที่เลือกใช้งาน Adobe Acrobat, Adobe Stock, Adobe Substance, Adobe Express รวมทั้ง Adobe Creative Cloud Photography เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงราคาใหม่สำหรับผู้ใช้งาน Adobe Creative Cloud รวมทั้ง Generative Credits, Adobe Express และ Adobe Firefly จะปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 2 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่เรียกเก็บจากการจ่ายเงินแบบรายเดือนเป็นแบบรายปี โดยเพิ่มขึ้นจาก $21 ประมาณ 756 บาท เป็น $23 หรือประมาณ 827 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ การชำระเงินแบบเดือนต่อเดือน จะเพิ่มขึ้นอีก 3 ดอลลาร์ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจาก 31.50 ดอลลาร์ ประมาณ 1,133 บาท เป็น 34.50 ดอลลาร์หรือ 1,240 บาท
ส่วนผู้ใช้งานที่เลือกชำระเงินล่วงหน้า 12 เดือน ซึ่งเป็นการจ่ายแบบครั้งเดียว จะเริ่มจ่าย 263.88 ดอลลาร์หรือ 9,492 บาท ต่อปี แทนที่จะเป็น 239.88 ดอลลาร์หรือ 8,628 บาทในวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 24 ดอลลาร์ หรือ 863 บาทเลยทีเดียว
ส่วนผู้ที่ใช้งานแผน Creative Cloud สำหรับแอปทั้งหมดแบบส่วนบุคคล จะขึ้นราคาเป็น 60 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือ 2,158 บาท แทนที่จะเป็น 55 ดอลลาร์หรือ 1,978 บาท
สำหรับผู้ที่เลือกใช้แบบเก็บเงินรายปี ก็เปลี่ยนเป็นตัวเลือกรายเดือนเพิ่มขึ้นประมาณ 7.50 ดอลลาร์หรือ 270 บาทจาก 82.50 ดอลลาร์หรือ 2,968 บาท เป็น 90 ดอลลาร์หรือ 3,237 บาท
ส่วนแผนบริการ All Apps แบบชำระเงินล่วงหน้ารายปีจะมีราคาต่ำกว่า 660 ดอลลาร์หรือ 23,740 บาท เพิ่มขึ้นจาก 600 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 21,582 บาท
อย่างไรก็ตาม Adobe เพิ่งประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2023 ซึ่งมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
โดย Adobe มีรายได้ 4.89 พันล้านดอลลาร์หรือประมาณ 175 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับรายได้ในปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ รายได้ที่สร้างการเติบโตให้แก่บริษัทมากที่สุด แบ่งเป็น
- กลุ่มสื่อดิจิทัล (Digital Media) 14%
- กลุ่มรายได้เชิงสร้างสรรค์ (Creative) 14%
- กลุ่ม Document Cloud 15%
- กลุ่มประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) 11%
- รายได้จากการสมัครสมาชิก Digital Experience (Digital Experience subscription) 13%
Shantanu Narayen ประธานและซีอีโอของ Adobe กล่าวว่า การปรับแผนราคาใหม่นั้น เชื่อว่าจะตอบสนองการใช้งานของลูกค้าได้ดีขึ้น เพราะเรามีการเสริม AI ของมาช่วยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Firefly, Express, Creative Cloud และ GenStudio และการปรับราคาขึ้นนั้น แลกมากับคุณภาพของชิ้นงานที่จะดีขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน
ที่มา : PetaPixel
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
