TK Park ประกาศกลยุทธ์ความต้องการอ่านหนังสือของคนรุ่นใหม่ ด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม “ห้องสมุดเดียว” และ “ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ” เพื่อให้บริการแก่นักอ่านช่วงกลางปีนี้ ด้วยการดึง Big Data ส่องความต้องการหนังสือมาเติมให้เต็มตู้
นายกิตติรัตน์ ปิติพานิช ผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า TK Park เดินหน้าสานภารกิจ “สร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้” ผ่านสื่อ หนังสือ และกิจกรรม พร้อมเน้นกลยุทธ์เชิงรุกนำการเรียนรู้ส่งถึงมือผู้คนในสังคม ใช้นวัตกรรมสร้างระบบเชื่อมโยงโครงข่าย ปั้นแพลตฟอร์ม “ห้องสมุดเดียว” อำนวยความสะดวกให้สมาชิกสามารถยืม-คืนหนังสือข้ามสาขาได้
รวมทั้งเตรียมนำ “ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ” ที่บรรจุหนังสือกว่า 300 เล่ม มาให้บริการเป็นครั้งแรกในย่านใจกลางเมืองกลางปีนี้
สำหรับ แพลตฟอร์ม “ห้องสมุดเดียว” อำนวยความสะดวกให้สมาชิกสามารถยืม-คืนหนังสือข้ามห้องสมุดได้ โดยเฉพาะผู้ใช้บริการที่อยู่ในต่างจังหวัด สามารถยืมหนังสือจากกรุงเทพฯ และผู้ใช้บริการที่กรุงเทพฯ ก็สามารถยืมหนังสือจาก TK Park ในต่างจังหวัดได้ผ่านระบบตะกร้ากลางควบคู่กับบริการ Book Delivery ที่สามารถส่งและคืนหนังสือได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมีการดึงข้อมูลจาก Big Data มาใช้ประมวล ผลสร้างกิจกรรม-การเรียนรู้-คอร์สเทรนนิ่ง ที่มากกว่าการอัพสกิลและรีสกิล ตอบโจทย์การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ตามความสนใจของผู้คนทุกช่วงวัย และสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทั่วประเทศ
โดยตั้งเป้าสร้างเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ตามแนวทางของยูเนสโกเพิ่มขึ้น และในปีนี้ เตรียมพร้อมเพิ่มจำนวนเครือข่ายใหม่ๆ ร่วมกับ ทรู ดิจิทัลพาร์ค อบจ.สุราษฎร์ธานี และเทศบาลเมืองพะเยา
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
กลยุทธ์ที่ TK Park ปักธงให้ความสำคัญในปีนี้
เดินหน้าขยายความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร, ทรู ดิจิทัลพาร์ค และ กลุ่มหอการค้า ( YEC ) เพื่อทำให้การสร้างระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ภายในปีนี้ TK Park มีแผนเปิดสาขาใหม่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ TK Park ที่สวนสาธารณะเกาะลำพู ในตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ TK Park ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา
รวมถึงการผลักดันให้เกิดเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามแนวทางยูเนสโก ที่ TK Park จะร่วมผลักดันกับเครือข่ายในทุกจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ทุกที่สามารถเข้าร่วมเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้
การขยายพื้นที่การเรียนรู้ จากนี้ TK Park จะยิ่งรุกหน้าเข้าหาประชาชนให้มากขึ้น นอกเหนือจากผ่านช่องทางการสื่อสารในแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ครอบคลุมของ TK Park แล้ว ยังมีการขยายเพิ่มการเข้าถึงพื้นที่กายภาพ
โดยในช่วงกลางปีคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการ ตู้ยืมหนังสืออัตโนมัติ ที่มีหนังสือพร้อมให้บริการ 300 เล่ม ใช้บริการได้ตลอด 24 ชม. และอยู่ในพื้นที่ ๆ ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการในทุกกลุ่ม บริการหลักของ TK Park คือ เรามีหนังสือ สื่อ องค์ความรู้ และมีการฝึกอบรม แนวทาง Train the Trainers เพื่อขยายผลองค์ความรู้ให้ได้มากที่สุด
โครงการต่างๆ ดำเนินการโดยผ่านการเก็บรวมรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกิดเป็นโซลูชั่นที่ตรงกับความสนใจของคนแต่ละกลุ่ม เช่น โครงการแนะให้แนว ที่เป็นโครงการสำหรับเด็กวัยมัธยมเพื่อแนะนำ ชี้เส้นทางอนาคต
ซึ่งจะทำให้เด็กๆ ได้มองเห็นแนวทางและภาพอนาคตของตนเอง โดยต่อไปจะมีการพัฒนากลุ่มเป้าหมายของโครงการ ไปสู่กลุ่มคนทำงาน ที่อยากจะพัฒนาทักษะด้านต่างๆ หรือการเปลี่ยนเส้นทางอาชีพ การต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ หรือเสริมเรื่อง Design Thinking กลุ่มคนวัยเกษียณ ที่ต้องการแนะแนวเส้นทางการใช้ชีวิตและการพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ
ปัจจุบันกระแส Sharing Economy กำลังมาแรง โดยเฉพาะในต่างประเทศได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่การแชร์หนังสือแลกกันอ่าน แต่ยังรวมถึงการแชร์สิ่งของที่ผู้คนใช้กันไม่บ่อย ช่วยลดการซื้อของเข้าบ้าน
TK Park ได้คิดนำระบบการแชร์หนังสืออ่านด้วยกันมาใช้ รวมถึง การให้ยืม "ของเล่น" ที่เหมาะกับเด็กในช่วงวัยต่างๆ โดยที่ผู้ปกครองไม่จำเป็นต้องซื้อ เป็นการเดินหน้าสู่คอนเซ็ปต์ เปลี่ยนห้องสมุดจาก Public Space ให้เป็น People Space
นอกจากนี้ ทักษะที่จะทำให้คนเราอยู่รอดได้ท่ามกลางอุปสรรคและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา คือ Transferable Skill ทักษะที่จะสามารถส่งต่อให้กับผู้คนรู้จักนำไปใช้ในการแก้ปัญหาและหาคำตอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเปลี่ยนแปลงในทุกวัน
TK Park สนับสนุนการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเรียนรู้เยอะยิ่งดี ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ของโลก การที่เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง อยากรู้เรื่องใดก็ค้นคว้าหาความรู้ เพราะปัจจุบันแนวโน้มคนเราเริ่มรู้เส้นทางการเรียนรู้ที่เขาอยากจะเป็นเพิ่มมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงการเรียนรู้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำของสังคมได้อย่างแท้จริง