ยอดจองมือถือ AI มาแรง 200% ซัมซุงปลื้ม คนไทยใช้นวัตกรรมเก่งไม่แพ้ชาติอื่นๆ

ตั้งแต่มีการเปิดตัวมือถือ AI หรือ AI Phone ของ Samsung (ซัมซุง) เรียกได้ว่าเป็นจังหวะของการวางใจได้ว่าเทรนด์การตอบรับสมาร์ตโฟนที่อัดความสามารถของ AI เข้าไปใส่ในอุปกรณ์สื่อสาร มีแนวโน้มที่จะไปต่อได้ดี และอีกหลายแบรนด์ก็น่าจะชูจุดเด่นนี้ให้ถึงมือลูกค้าอีกจำนวนมาก

สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ กล่าวว่า จากการเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ พบว่า คนกลุ่มนี้มีการใช้งานเทคโนโลยี AI ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ Gen MZ ที่เป็นผู้ใช้งาน AI จึงต้องอัดแน่นนวัตกรรมเข้าไปใน Galaxy S24 Series เพื่อชูความเป็นมือถือ AI อย่างแท้จริง

เนื่องจากว่าความสนใจของผู้บริโภค Gen MZ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย นั้น มีความสนใจหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

• อาหาร 77% 
• การเดินทาง 68%
• ดนตรี 58%
• เกม 53%
• แฟชั่น/ความงาม 46%
• กีฬา 35%
• K-Wave 27%

จากข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความสนใจที่หลากหลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานอุปกรณ์สื่อสารจึงต้องตอบโจทย์เช่นกัน

ฟีเจอร์ใน Galaxy S24 ต้องหลากหลาย

ดังนั้น ฟีเจอร์ AI ที่ตอบความต้องการและความสนใจของชาว Gen MZ จึงต้องตอบโจทย์การใช้งานรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น

1. ฟีเจอร์เพื่อการสื่อสารที่ไร้พรมแดน อย่าง Live Translate และ Interpreter
2. มาตรฐานใหม่ของการค้นหาสิ่งต่างๆ อย่าง Circle to Search
3. การแก้ไขภาพถ่ายด้วย Photo Assist
4. ฟีเจอร์ที่ช่วยในการทำงานและหาข้อมูล Transcript Assist, Note Assist และ Browing Assist

นอกจากนี้ ซัมซุง ยังได้ทำงานร่วมกับผู้นำด้าน AI อย่าง Google และ Microsoft เพื่อดึงความสามารถของ AI มาพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น Circle to Search ที่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Galaxy S24 Series

ทั้งยังทำงานร่วมกับ LLM โซลูชัน ที่ดึง AI ไปใส่ในฟีเจอร์หลักของ Galaxy S24 Series เช่น Live Translate,Voice Recorder, Samsung Notes และอื่นๆ โดย LLM จะเปิดให้มีประสบการณ์ AI มากยิ่งขึ้น

การเติบโตของ AI โอกาสของธุรกิจทั่วโลก

บริษัทวิจัยหลายแห่งคาดการณ์ว่า AI จะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลกรวมถึงในประเทศไทย คาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2575 และในปัจจุบัน Chat GPT มีผู้ใช้มากกว่า 180.5 ล้านคน

โดยขนาดตลาด Generative AI ของประเทศไทยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีที่ 23.46% ส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2573 และมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 35% ของผู้บริโภคในประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน

เทรนด์หลักของ AI ในปี 2024 

สำหรับเทรนด์ที่น่าสนใจด้าน AI ที่คาดว่าจะเป็นกระแสหลักทางเทคโนโลยีในอนาคตถูกแบ่งเป็น 5 เทรนด์ ดังนี้

เทรนด์ที่ 1: Generative AI เป็นการใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ

ด้วยรูปแบบของคอนเทนต์ ตั้งแต่ข้อความไปจนถึงดนตรี มีแนวโน้มว่าในปี 2569 องค์กรต่างๆ มากกว่า 80% จะนำ Generative AI มาปรับใช้ในการดำเนินงาน
ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมากจากปัจจุบันที่มีการใช้งานน้อยกว่า 5% 

เทรนด์ที่ 2: BYOAI หรือ Shadow AI พนักงานใช้ AI มาช่วยในการทำงานมากขึ้น

แนวโน้มใหม่ที่จะเกิดขึ้นในที่ทำงาน ด้วยราคาในการเข้าใช้งาน AI ที่ถูกลงหรือมีทดลองใช้ฟรีเพื่อนำข้อมูลไปพัฒนา AI ทำให้พนักงานส่วนใหญ่สนใจที่จะนำ AI ของตนเองเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น ผลการรายงานจาก Forrester ระบุว่า
‘60% ของพนักงานจะใช้ AI มาช่วยทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น’

เทรนด์ที่ 3: การใช้แอปพลิเคชันสร้างรูปแบบเฉพาะบุคคล 

ในปี 2569 ที่จะถึงนี้ 1 ใน 3 ของแอปพลิเคชันทั้งหมด จะใช้ AI เพื่อสร้างอินเตอร์เฟช ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งรูปแบบการทำงานเฉพาะบุคคลได้ดีขึ้น

เทรนด์ที่ 4: AI ถูกนำไปใช้สำหรับการเขียนโค้ดมากขึ้น

นักพัฒนาระบบหรือ Dev โยนงานบางอย่างไปให้ AI ช่วยแก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner ระบุว่า ‘ภายในปี 2571 บริษัทซอฟแวร์จะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ดจาก 3 ใน 4 ของบริษัททั้งหมด ซึ่งในปี 2566 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น’ (ซึ่งส่วนนี้เคยเกิดปัญหาข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ของ Samsung ที่เกาหลีใต้มาแล้ว)

เทรนด์ที่ 5: การค้นหาออนไลน์ด้วย AI จะเป็นทางเลือกที่แม่นยำขึ้น

นอกจากการค้นหาแบบพิมพ์และกรองข้อมูลแบบเดิม AI จะเข้ามาปรับปรุงการค้นหาทั้งแบบตัวอักษร ค้นหาด้วยภาพหรือวิดีโอ ให้ตรงกับความชอบของผู้ใช้งานมากขึ้น เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำมากกว่าเดิมแล้ว การค้นหาแบบสนทนาเพื่อตอบโต้กับเครื่องมือ
ช่วยให้การค้นหาเป็นไปได้อย่างธรรมชาติมากขึ้น

นอกจากนี้ เรื่องของความปลอดภัย ก็เป็นอีกหนึ่งความสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความใส่ใจมากขึ้น โดย ซัมซุง ชูเรื่องความปลอดภัยด้วยว่า เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Galaxy S24 Series ที่มีการตั้งค่าขั้นสูงด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลของ AI แบบเต็มรูปแบบได้จากทางออนไลน์

และแสดงผลด้วยแดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมว่ามีแอปใดกำลังเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูล หรือกล้อง ของผู้ใช้งานหรือไม่ จากนั้นเจ้าของเครื่องสามารถปิดการอนุญาตได้เองทันที

รวมไปถึงการใส่ลายน้ำ Metadata ที่ผู้ใช้สามารถแชร์รูปภาพได้แบบไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว ทั้งยังมีการป้องกันด้วย Samsung Knox Metrix ที่ช่วยให้การเข้ารหัสและเชื่อมต่อคลาวด์เป็นไปอย่างปลอดภัย รวมถึง Knox Vault, Auto Blocker, Secure Wi-Fi, Private Share เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ผู้บริหารซัมซุงยังมั่นใจด้วยว่า นวัตกรรมที่บริษัทเดินหน้าพัฒนามาโดยตลอดนั้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งยอดสั่งจองล่วงหน้ากว่า 200% เป็นสัญญาณที่บอกให้ทราบว่า ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนต้องไม่ใช่แค่สร้างมือถือ แต่ต้องสร้างนวัตกรรมให้ทันยุคสมัยด้วย

 

ภาพ : Samsung

อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม

• Samsung Galaxy AI คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่น่าสนใจ จุดเริ่มต้นใหม่ของมือถือซัมซุง
• ย้อนตำนาน Samsung Galaxy จากมือถือนอกสายตา สู่เรือธงเกือบ 14 ปีของซัมซุง
• ซัมซุงแก้มปริ S23 ในไทย ยอดขายแรงกว่า S22 ถึง 130% ติดท็อป 10 ตลาดโลก