svasdssvasds

Hyperventilation Syndrome อาการของความเครียดที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก

Hyperventilation Syndrome อาการของความเครียดที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก

ในปัจจุบันการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบเรื่องสุขภาพ ยังมีผลต่อเศรษฐกิจและสังคมด้วย ทำให้หลายคนเกิดภาวะเครียด ส่งผลทางด้านร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดหัว นอนไม่หลับ และอีกหนึ่งอาการที่เกิดขึ้นบ่อย แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คือ Hyperventilation Syndrome

Hyperventilation Syndrome นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบายว่า Hyperventilation Syndrome เป็นอาการไม่สบายที่เกิดจากความเครียด วิตกกังวล หรือกดดันหนักมากเกินไป ทำให้มีอาการหายใจเร็วเกินไป (Hyperventilation) อาจจะทำให้รู้สึกหายใจลำบาก ชาปลายมือปลายเท้า หรือมือเท้าจีบเกร็ง ไม่รุนแรงจนเป็นอันตราย แต่กลุ่มอาการไฮเปอร์เวนติเลชั่นมักเป็นอาการที่ทำให้ผู้ป่วยต้องเดินทางไปรับบริการฉุกเฉินอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังสร้างความกังวลใจต่อครอบครัวและคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจในสภาวะของโรค อาจจะนำไปสู่ปัญหาด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตภายในครอบครัว และอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

ทางด้านนายแพทย์ธนินทร์  เวชชาภินันท์  ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า การหายใจลึกและเร็วเกินกว่าความต้องการของร่างกาย จะทำให้เกิดการขับออกของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทางลมหายใจเพิ่มมากขึ้น จนเป็นเหตุให้เกิดเกิดภาวะความเป็นด่างในเลือดเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดอาการรู้สึกหายไม่สะดวก แน่นหน้าอก ชาตามร่างกายโดยเฉพาะริมฝีปาก ปลายมือปลายเท้า มือเท้าจีบเกร็ง แต่จะไม่ทำให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นอัมพาต มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หรือพบมากในผู้ที่มีจิตใจไม่มั่นคง บุคลิกภาพไม่แข็งแรงหรือไม่หนักแน่น เมื่อมีเรื่องตกใจ ขัดใจ โมโห ฉุนเฉียว ก็จะเกิดอาการกำเริบได้ทันที 

แนวทางการรักษา อาการ Hyperventilation

การรักษาโดยทั่วไปมักเป็นการให้ผู้ป่วยหายใจให้ช้าลง หรือให้หายใจในวัสดุอุปกรณ์ที่ครอบปิดปากและจมูก เช่น กรวยกระดาษ การให้ความมั่นใจว่าอาการป่วยนี้เกิดจากความเครียด ไม่ใช่อาการของโรคหัวใจหรือโรคทางกายอื่นๆ และไม่มีอันตรายถึงชีวิต หากยังไม่ทุเลาแพทย์จะให้ยาคลายกังวลเพิ่มเติม โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยและญาติอาจจะรู้สึกตกใจ โดยความตกใจของผู้ป่วยและญาตินั้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้อาการกำเริบหรือเป็นยาวนานขึ้น

สมาธื

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหายใจเร็วเกินไป เมื่อเกิดอาการควรตั้งสติไม่ตกใจต่ออาการที่เกิดขึ้น เพราะอาการไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง พยายามควบคุมการหายใจให้ช้าลง ถ้าไม่สามารถพยายามให้หายใจช้าลงได้ อาจใช้ถุงกระดาษหรือพับกรวยกระดาษครอบปากและจมูกไว้ เพื่อให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับคืนสู่กระแสเลือด ช่วยให้ภาวะกรดด่างคืนสู่สมดุล ญาติหรือผู้ใกล้ชิดต้องลดความตกใจ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกผ่อนคลายและต้องเข้าใจว่าผู้ป่วยไม่ได้แกล้งทำ ตัวเราเองควรเสริมสร้างความเข้มแข็งของสุขภาพจิต ฝึกการเผชิญปัญหาต่างๆ ฝึกวิธีการหายใจและการผ่อนคลาย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการ Hyperventilation บ่อยๆ หรือเป็นมากขึ้น อาจต้องปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อพิจารณากระบวนการรักษาทั้งการให้ยาและการทำจิตบำบัด ซึ่งในบางครั้งอาจจะต้องทำการรักษาแบบกลุ่มหรือครอบครัวบำบัดร่วมด้วย

Cr. สถาบันประสาทวิทยา / กรมการแพทย์