ถ้าไม่ใช่บิทคอยน์ ไปต่อเหรียญไหนดี? หลัง อีลอน มัสก์ ทวีตกลับลำ ทำราคาเหรียญร่วงกราว

       ใครที่อยู่ในวงการเทรด คริปโตเคอเรนซี่ อย่าง บิทคอยน์ (หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลยืนยันการทำธุรกรรมผ่านระบบ Blockchain) น่าจะรู้จัก อีลอน มัสก์ Elon Musk ผู้บริหาร บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติอเมริกัน Tesla เป็นอย่างดี เพราะเขาชื่นชอบและหลงไหลการลงทุนประเภทคริปโตเคอเรนซีอย่างมาก และมักทวีตถึง บิทคอยน์ หรือ โดชคอยน์ Dogecoin (เหรียญหมาชิบะ) อยู่บ่อยๆ ซึ่งทวีตทีส่งผลกระทบต่อราคาเหรียญอย่างมาก มีทั้งขึ้น ทั้งร่วง จนทำให้หลายคนติดดอย บาดเจ็บ ล้มตาย  กันมานักต่อนัก

       และอีกครั้งล่าสุดช่วงเช้า (13พ.ค.) ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ราคาบิตคอยน์รวมถึง สกุลเงินดิจิตัลอื่นๆ พร้อมใจกันร่วงหนักมาก หลัง อีลอน มัสก์ ทวีตบอกว่า เทสล่า งดรับบิทคอยน์สำหรับการซื้อขายรถยนต์ของบริษัทแล้ว (ทั้งที่เพิ่งประกาศไปเมื่อ มี.ค.) โดยอ้างว่าการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ ใช้พลังงานฟอสซิล สูง ซึ่งเป็นพลังงานสกปรกและทำลายสิ่งแวดล้อม

       ข้อมูลจาก TRG data centers พบว่า บิทคอยน์ มีการใช้พลังงานเฉลี่ย 700 KWh ต่อธุรกรรม ซึ่งเทียบเท่าได้กับการใช้พลังงานในประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ใกล้เคียงกับประเทศสิงคโปร์

       แต่ถึงกระนั้น อีลอน มัสก์ ก็ยังบอกว่า มันเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตและกำลังพิจารณาเงินดิจิทัลสกุลอื่น ที่ใช้พลังงานไม่ถึง 1% ของบิตคอยน์อยู่

      ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ก็มีโอกาสที่หากอีลอนมัสก์ พบเหรียญตรงสเป็ค ใช้พลังงานน้อยกว่าบิตคอยน์ในการขุด  ก็อาจเป็น โอกาสให้เราทำกำไรได้ในอนาคต แต่แล้วมันเป็นเหรียญไหนได้บ้าง?

       Ethereum อีเทอเรียม เหรียญคริปโตฯราคาอันดับ2  โปรโตคอลแบบ Proof-of-Work แบบเดียวกับบิทคอยน์ มีการใช้พลังงานประมาณ 62.56 KWh ต่อธุรกรรม เครือข่ายของ Ethereum มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่ากับประเทศซูดาน ก็อาจยังไม่ใช่คำตอบ

       Ripple ( XRP) เหรียญริปเปิล ซึ่งกำลังมีคดีฟ้องร้องกันระหว่างก.ล.ต.กับบริษัท Ripple ทำให้ราคาร่วงไปมาก แต่ยังมีสัญญาณซื้อกลับมา เนื่องจากมีทีท่าว่าอาจจะขนะคดี ริปเปิลมีการใช้พลังงานเพียง 0.0079 KWh ต่อธุรกรรม

       Algorand (ALGO) ทำงานบนโปรโตคอลแบบ Pure Proof-of-Stake อาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญ เนื่องจากในวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศว่าระบบบล็อกเชนของ ALGO มีการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และด้วยความร่วมมือกับ ClimateTrade บริษัทเทคโนโลยีด้านการเงินของสเปนด้วย โดย ALGO ตั้งเป้าที่จะสร้างเครือข่ายที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นลบ

และสุดท้ายไม่พูดถึงคงไม่ได้ โด้ชคอยน์ (Dogecoin) เหรียญหมาชิบะสุดน่ารัก ใช้อัลกอริธึม คนละแบบกับบิทคอยน์ในการขุด และใช้พลังงานเพียง 0.12 KWh ต่อธุรกรรมเท่านั้น

        นับว่าเป็นเหรียญที่ได้รับความสนใจต่อเนื่องเพราะ อีลอน มัสก์เลยก็ว่าได้เพราะเป็นเหรียญโปรดของเขา ช่วงแรกโด้ชคอยน์ใช้ในการบริจาค งานการกุศลต่างๆ แต่มันก็เพิ่งราคาร่วงไป แม้อีลอนจะประกาศอุ้มชูเหรียญแค่ไหนก็ตาม ล่าสุดอีลอนประกาศอีกครั้งจะพาเหรียญหมาไปอวกาศให้ได้ และทางบริษัท Space X เพิ่งทำการเปิดตัว โปรเจค "DOGE-1 Mission to the Moon" ให้ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปเยือนดวงจันทร์ได้ โดยเปิดรับชำระด้วย Dogecoin และเมื่อวันอังคาร(11 พ.ค. 64) ที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ได้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ด้วยว่า  บริษัท Tesla ควรจะรับชำระเงินด้วย Dogecoin หรือไม่? ใครเป็นสาวกอีลอน มัสก์ก็อาจต้องจับตาดูเหรียญนี้ไว้ให้ดี แต่ทั้งหมดก็ไม่รู้จะจริงหรือแค่ปั่นอีกตามเคย

       ย้ำอีกครั้งนะคะว่าบทความนี้ไม่ได้บอกว่า เหรียญไหนควรซื้อ แค่รวบรวมบทวิเคราะห์มาเท่านั้น ส่วนเรื่องจะไปต่อหรือพอ Cutloss ก่อนดีไหมโอ๋คิดว่ามันอยู่ที่ตัวบุคคล ถ้าอยู่ในวงการนี้มาสักพัก จะเคยชินกับการผันผวนรุนแรง และถ้าเงินเย็นพอ จะรอราคากลับมาขึ้นทำกำไรอีกครั้งก็ได้  แต่สิ่งสำคัญอย่างนึงที่เห็นชัดเจนคือ ตลาดคริปโตเคอเรนซี่มีความผันผวนสูงมาก ราคาเหรียญแต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับความต้องการ และอารมณ์คนล้วนๆ ก่อนลงทุนต้องศึกษาข้อมูลความเสี่ยงให้ดี ถ้าวันนี้ยังไม่รู้จะซื้อเหรียญไหน ยังถามคนอื่นไปทั่ว โอ๋แนะนำว่าให้ลงทุนในความรู้ก่อน อ่านข่าว ศึกษากราฟเทคนิคก่อนซื้อ และเงินที่นำมาเล่นควรเป็นเงินเย็นที่พร้อมจะเสียได้จริงๆ เพราะแม้ว่าบิตคอยน์จะทำกำไรให้นักลงทุนที่จับจังหวะถูกได้เป็นล้านๆ แต่ก็สามารถทำให้คนสูญเงินเป็นล้าน ล้างพอร์ต ติดดอย ไปได้เช่นกัน เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน..