ฝรั่งเศสเริ่มบังคับใช้มาตรการบัตรผ่านสุขภาพ (Health Pass) หรือ บัตรผ่านโควิด เป็นวันแรก (21ก.ค.) ท่ามกลางเสียงคัดค้าน โดยมาตรการนี้ที่ทำให้มีการประท้วง มีแรงต้าน และเรียกประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ว่าเป็นเผด็จการด้านสาธารณสุข
สถานการณ์ โควิด-19 ของฝรั่งเศส ยังคงคุกรุ่น ต่อเนื่องจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการประท้วงมาตรการ บังคับใช้บัตรผ่านสุขภาพ หรือ บัตรผ่านโควิด ก่อนเข้าสู่พื้นที่ให้บริการของสถานที่สาธารณะ ซึ่งรองรับบุคคลตั้งแต่ 50 คน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ตลอดจนระบบขนส่งสาธารณะ
โดยมาตการนี้ ระบุว่า บุคคลนั้นต้องรับการฉีดวัคซีนโควิดครบแล้ว มีผลตรวจยืนยันเป็นลบภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือเพิ่งหายป่วยจากโรคโควิด-19 สถานประกอบการแห่งใดที่ไม่ตรวจสอบว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการมีข้อมูลครบหรือไม่ ต้องชำระค่าปรับสูงสุดไม่เกินครั้งละ 1,500 ยูโร ( ราว 58,033.67 บาท ) แต่จะเพิ่มขึ้นอีกหากกระทำผิดซ้ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ติดเชื้อโควิดมากกว่า 70 แล้ว! โอลิมปิก 2020 ยังมีโอกาสยกเลิกจนนาทีสุดท้าย
รัฐบาลล้มเหลว! ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันพุ่ง ไทยอันดับ 14 ของโลก
ถอดบทเรียน อู่ฮั่นโมเดล สู่การมองอนาคต โควิด-19 ไทยล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ
สำหรับวันนี้ 21 ก.ค. เป็นวันแรก ที่มาตรการนี้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ โดย ประชาชนในฝรั่งเศสต้องแสดงเอกสารที่เรียกกันว่า "บัตรรับรองสุขภาพ" หรือ "บัตรผ่านโควิด-19" ก่อนเข้าสู่พื้นที่ให้บริการของสถานที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม นายกาเบรียล อัตตาล โฆษกคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศส กล่าวว่า การปรับเงินจะยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที โดยให้ความเห็นเพียงว่า "อาจนานกว่า 1 สัปดาห์แต่ไม่น่าถึง 1 เดือน" ในการให้ประชาชนปรับตัวจนคุ้นเคยกับมาตรการใหม่
สำหรับ มาตรการบัตรผ่านโควิด ทำให้มีการประท้วงคัดค้าน และเรียกเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดี ว่าเป็น เผด็จการด้านสาธารณสุข และ แทรกแซงสิทธิและเสรีภาพด้านสุขภาพของพลเมือง เนื่องจากการบังคับใช้แพทย์และบุคลากรสาธารณสุขทั้งหมดต้องฉีดวัคซีนก่อนวันที่ 15 กันยายนนี้