จากเหตุลอบสังหารผู้นำประเทศ : รำลึกถึง การลอบฆ่าผู้นำ ที่โลกไม่ลืม

ลอบสังหารผู้นำครั้งล่าสุด
เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ลอบสังหารผู้นำประเทศ ครั้งล่าสุดของโลก เกิดขึ้น ที่เฮติ ดินแดนอเมริกากลาง  โดย โจวาเนล มอยซ์ ประธานาธิบดีเฮติ บนวัย 53 ปี ถูกสังหาร ถูกโจมตีบ้านพักส่วนตัวของเขากลางดึกคืนวันพุธ 7 ก.ค. 2021 ตามรายงานของ คลอดด์ โจเซฟ นายกรัฐมนตรีเฮติ  ส่วน นางมาร์ตินมอยซ์  สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเฮติ ก็ได้รับบาดเจ็บด้วย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ได้ทวีตข้อความว่า เขารู้สึก "ตกใจและเศร้าโศกต่อการเสียชีวิตของนายมอยซ์" และเรียกการลอบสังหารว่า "การกระทำที่น่ารังเกียจ"

ด้านทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ขอเรียกการสังหารนี้ว่า "อาชญากรรมสะเทือนขวัญ"

 สำหรับ เฮติเป็นประเทศสาธารณรัฐที่นำโดยคนผิวดำแห่งแรกของโลก และเป็นรัฐในแถบแคริบเบียนที่รับเอกราชแห่งแรกของโลก หลังจากหลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและการเป็นทาสในต้นศตวรรษที่ 19

ลอบสังหารที่โจษขานที่สุดในโลก
 จอห์น เอฟเคเนดี้ : การลอบสังหารที่เป็นที่โจษขาน และถูกกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ามากที่สุด คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์  เมื่อวันที่ 22 พ.ย.1963 เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส อ้างอิงตามรายงานอย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟเคเนดี้ถูก สไนเปอร์เพียงคนเดียว ที่ชื่อว่า ลี ฮาร์วีย์ ออสวอล ผู้นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ใช้ปืนโบราณยิงจากเบื้องสูงเข้าใส่ขบวนรถ ที่มีการรักษาความปลอดภัยหละหลวม อย่างชนิดสุดเหลือเชื่อ จนกระทั่งกระสุนปลิดชีวิตวิ่งเข้าใส่หัวของจอห์น เอฟเคเนดี้  จนกระทั่งจบชีวิตลง

คนทั่วโลกได้ชม...ได้รับรู้เหตุการณ์นี้ผ่านทาง ภาพยนตร์อาทิ เรื่อง Jackie เมื่อปี 2016 ซึ่งนำแสดงโดยนาตาลี พอร์ตแมน ซึ่งรับบทเป็นภรรยา แจคกาลีน เคนเนดี้ ภรรยาของ JFK เป็นต้น
 การจากไปของ JFK สร้างความโศกเศร้าให้กับโลก และต้องเสียผู้นำในวัยหนุ่ม 46 ปี...และผู้คนต่างก็จดจำวลีเด็ดของเขาที่เคยฝากไว้ "โปรดอย่าถามว่าประเทศได้ให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามว่าท่านได้ให้อะไรแก่ประเทศชาติบ้าง?" ซึ่ง  จอห์น เอฟเคเนดี้ กล่าวระหว่างพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำประเทศ เมื่อวันที่ 20 มกราคมปี 1961 ซึ่งเกาะกินใจอเมริกันชนตั้งแต่ยุคอเมริกันดรีม จนถึงปัจจุบัน

ภาพการทำงานของจอห์น เอฟ เคเนดี้

นาตาลี พอร์ทแมน รับบทเป็น  แจคกาลีน เคนเนดี้ ภรรยาของ JFK ในภาพยนตร์  Jackie เมื่อปี 2016

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ด่วน!! ประธานาธิบดีเฮติ ถูกลอบสังหารคาบ้านพักส่วนตัว

• รัฐมนตรียูกันดา โดนลอบสังหาร ลูกสาวและคนขับรถเสียชีวิต

• ทหารเข้าคุมตัว "ประธานาธิบดี" และ "นายกรัฐมนตรี" ของประเทศมาลี

สังหารสตรีแห่งโลกมุสลิม
เบนาซีร์ บุตโต : นาง เบนาซีร์ บุตโต คือสตรีเหล็กผู้แข็งแกร่งแห่ง ปากีสถาน , เธอคือ สตรีผู้สร้างประวัติศาสตร์ได้ขึ้นผู้นำประเทศคนแรกของโลกมุสลิม ในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1988-1990 และ สมัยที่ 2 ในช่วงระหว่างปี  1993-1996

โดย เบนาซีร์ บุตโต โดนลอบสังหาร วันที่ 27 ธ.ค.2007 ณ เวลานั้นเธออายุ 54 ปี  เธอโดนลอบสังหารมาหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะมาจบชีวิต ขณะออกรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคประชาชนปากีสถาน (Pakistan Peoples Party) หรือ PPP ที่เมืองราวันปินดี

โดยคนร้ายลอบยิงเบนาซีร์ บุตโต จากเบื้องสูง ก่อนมีการกดระเบิดที่พลังทำลายรุนแรงซ้ำในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เพื่อให้มั่นใจว่าเหยื่อจะไม่มีทางรอดชีวิต เหตุการณ์นี้จึงทำให้มีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต 28 ราย

ลอบยิงคานธีตัวแทนแห่งอหิงสา

มหาตมะ คานธี : วันที่ 30 มกราคม ค.ศ.1948 , มหาตมะ คานธี ผู้นำอินเดีย ซึ่งเป็นตัวแทนการต่อสู้จักรวรรดินิยมอังกฤษด้วยวิธีอหิงสา  ถูก นาถูราม โคทเส ลอบสังหาร ด้วยการยิงเข้าที่หน้าอก สามนัด ในระยะเผาขนด้วยปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ต่อหน้าต่อตาผู้ติดตามจำนวนมากของคานธี
.
 โดย นาถูราม โคทเส  หนุ่มชาวฮินดู ที่มาทำทีรอดักพบ ในการประชุมสวดประจำวัน ที่สวนเวอริฮาทร์ กรุงนิวเดลี  โดย ฆาตกรผู้นี้ อ้างว่า มหาตมะ คานธี ต้องรับผิดชอบต่อการทำให้อินเดีย อ่อนแอลงในการยืนหยัดต่อสู้กับประเทศปากีสถาน และนั่นคือจุดสุดท้ายของนักสู้ผู้เป็นตัวแทนของวิถีของความไม่เบียดเบียน, การเว้นจากการทำร้าย แต่ชีวิตต้องจบลงด้วยความรุนแรง
.
 ในเวลาต่อมาศาลสูงรัฐปัญจาบพิพากษาประหารชีวิตนาถูราม โคทเส ด้วยการแขวนคอที่เรือนจำอัมบาลา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 1949 ร่วมกับผู้สมคบคิดอีกคนหนึ่ง

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึง ผู้นำแต่ละประเทศต่างเป็นเป้าการโจมตีทำร้ายของฝ่ายตรงข้าม หรือเป็นเป้าของการแสดงความไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม การมุ่งทำร้ายร่างกายกัน ไม่ใช่สิ่งที่สร้างสรรค์หรือจรรโลงใดๆเลย เพราะทุกคนไม่มีสิทธิ์ตัดสินใครด้วยการใช้กำลัง ไม่มีสิทธิ์ที่ใครจะไป คร่า ชีวิตใคร 

... หากแต่ควร มาพูดคุยกันบนความขัดแย้ง และร่วมหาทางเดินร่วมกันมากกว่า...ใช้กำลังทำร้ายกัน!