อิสราเอล - ปาเลสไตน์ : หนทางสู่สันติภาพยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

• หนทางสงบศึกยังอีกไกล ?

เรื่องราวความรุนแรงระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงเลย เพราะภาพของการถล่มอาวุธหนักใส่กันในทั้งเขตฉนวนกาซ่าและเขตเวสต์แบงก์ยังคงเต็มไปด้วยความรุนแรง และความหดหู่ ตลอดเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

นับจนถึงตอนนี้  มีผู้เสียชีวิตในกาซาแล้วอย่างน้อย 215 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 100 รายเป็นผู้หญิงและเด็ก ขณะที่ในอิสราเอลมีรายงานผู้เสียชีวิต 12 ราย  และผู้บาดเจ็บจากทั้งปาเลสไตน์และอิสราเอลรวมกันถึง 2,000 คนแล้ว และที่เป็นข่าวร้ายสำหรับคนไทยก็ถือ มีชาวไทยที่ยืนยันแล้ว 2 คน ที่เสียชีวิตจากการสู้รบครั้งนี้ โดยเสียชีวิตที่บริเวณ เมือง Eshkol ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งแรงงานไทยไปค้าแรงงานอยู่ที่อิสราเอลจำนวน 25,000 คน ดังนั้นความรุนแรงที่เกิดขึ้นแม้จะห่างจากประเทศไทย แต่ก็ใกล้ตัวคนไทยไม่น้อย และอีก 25,000 คนต้องอยู่บนเส้นด้ายแห่งความเสี่ยง
     ด้าน เบนจามิน เนทันยา นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ว่าปฏิบัติการทางทหารของกองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้แก่กลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา  และจะทำให้กองกำลังของกลุ่มฮามาสจะถอยหลังไปอีกนานหลายปี  แต่ไอดีเอฟจะดำเนินการต่อไป "เท่าที่จำเป็น" เพื่อให้มั่นใจว่าชาวอิสราเอลทุกคนจะปลอดภัย.
     ทั้งนี้ มีความพยายามที่จะให้ความรุนแรงครั้งนี้ จบลงที่โต๊ะการเจรจา  โดยมีความพยายามให้สองฝ่ายยอมรับข้อตกลงหยุดยิงของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ,อียิปต์ , และกาตาร์ แต่ทั้งอิสราเอล และกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ก็ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ทั้งคู่ไปแล้ว

• ท่าทีจากมหาอำนาจสหรัฐ

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยโฆษก จอห์น เคอร์บี ปฏิเสธเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า อิสราเอลไม่ได้ขอให้สหรัฐฯ เพิ่มการสนับสนุนทางทหารเพิ่ม ในปฏิบัติการถล่มฉนวนกาซาแต่อย่างใด
    ส่วนจุดยืนของสหรัฐฯ ยังคงเดิม คือยืนข้างสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเองและชาวอิสราเอล นั่นเป็นการตอกย้ำว่า สหรัฐยังไงก็จะอยู่เคียงข้างอิสราเอล
    แต่อย่างไรก็ตาม ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้หารือทางโทรศัพท์กับ เบนจามิน แกนตซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล โดยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ย้ำต่ออิสราเอลว่า สหรัฐฯ ไม่ต้องการเห็นการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของทั้ง 2 ฝ่ายอีกต่อไป
    ส่วน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เพิ่งจะ ออกแถลงการณ์เป็นครั้งแรกสนับสนุนการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ที่ปกครองฉนวนกาซ่า หลังการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล 2 ครั้งในช่วง 3 วัน
    อย่างไรก็ตาม โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้เรียกร้องให้หยุดการโจมตีโดยทันที และนอกจากนี้ วอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐ เพิ่งจะเปิดเผยข้อมูล ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการขายระเบิดนำวิถีแบบแม่นยำสูงมูลค่า 735 ล้านเหรียญให้อิสราเอล และมีแนวโน้มว่าสภาคองเกรสจะเห็นชอบการขายครั้งนี้ด้วย  
    ส่วน สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม (CAIR) เร่งเร้าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ยุติแผนขายอาวุธนำวิถีชุดใหม่มูลค่า 735 ล้านเหรียญแก่อิสราเอลทันที เพื่อไม่ให้เป็นการส่งเสริมความรุนแรง

 

   

• คำประณามความรุนแรง

ด้านความเคลื่อนไหวอื่นๆ จากนานาประเทศ , ฝั่งอียิปต์ ที่มีพรมแดนติดกับอิสราเอล แสดงท่าที  ประกาศช่วยเหลือ 500 ล้านดอลลาร์บูรณะฉนวนกาซ่า โดย ประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี่ (Abdel Fattah el-Sisi) ผู้นำอียิปต์ให้คำมั่นว่าจะช่วยบูรณะกาซ่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  พร้อมกันนี้ยังจะส่งความช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ปาเลสไตน์ 

ด้าน จอร์แดน อีกหนึ่งประเทศที่มีพรมแดนติดกับอิสราเอล ก็ออกมาเรียกร้องให้ยุติความรุนแรง โดย  สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ทรงเรียกร้องชาวโลกร่วมกันหาทางยุติสมคราม และทรงเรียกร้องประชาคมโลกแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมกันยุติ "ความก้าวร้าว" และ "การล่วงละเมิด" ของอิสราเอลต่อนครเยรูซาเลม และในฉนวนกาซ่า พร้อมทั้งทรงเน้นว่าจอร์แดนไม่มีทางยอมรับ "การเปลี่ยนแปลงทั้งในทางประวัติศาสตร์และกฎหมาย" ต่อนครเยรูซาเลม

ขณะที่ บ้านเมืองในอิสราเอล บางเมืองที่มีผู้คนปาเลสไตน์แต่ได้สัญชาติอิสราเอล ก็ได้มีการนัดหยุดงานประท้วงการโจมตี   โดย มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ นำธงชาติปาเลสไตน์ ติดตามอาคารบ้านเรือน ตามถนนหนทาง ย่านร้านค้า บ้านเรือนปิดประตูเงียบ

ส่วนเหตุการณ์ การประท้วงในต่างประเทศอื่นๆ ที่แคนาดา , จัสติน ทรูโด  นายกรัฐมนตรีแคนาดาประณาม เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงหนุนอิสราเอล และหนุนปาเลสไตน์ ในเมืองมอนทรีออลในแคนาดา จนตำรวจแคนาดาต้องใช้แก๊สน้ำตาระงับเหตุด้วย

• คุมด่านกาซ่าเข้ม

ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลได้สั่งปิดทางด่านข้ามพรมแดน ‘คาเรม ชาลอม’ (Kerem Shalom) ซึ่งเชื่อมต่อกับฉนวนกาซ่าอีกครั้งแล้ว ในช่วงเย็นวันอังคารที่ 18 พ.ค. 2021 หลังจากก่อนหน้านี้เปิดให้รถบรรทุกขนสิ่งของช่วยเหลือจากจอร์แดน เดินทางเข้าไปเพื่อช่วยพลเมืองปาเลสไตน์ที่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้
    แต่ ที่ด่านราฟาห์ในอียิปต์ และเป็นด่านข้ามพรมแดนเข้าฉนวนกาซ่าเพียงจุดเดียวที่ไม่ได้อยู่ใต้การควบคุมของอิสราเอล ขบวนรถบรรทุกขนเชื้อเพลิงจากอียิปต์ 15 คัน และรถบรรทุกขนเสบียงอาหารและยาอีก 18 คันเดินทางเข้าสู่กาซาได้อย่างไม่มีปัญหา

    ความรุนแรงครั้งใหม่ระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ยังคงดำเนินมาจะครบ 2 สัปดาห์แล้ว ...เลือดเนื้อหลั่งรินสู่ผืนแผ่นดิน และคงจะมีภาพอันชวนสลดมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการพรากจากของแต่ละครอบครัว การทำลายอาคารบ้านเรือน รวมถึงตึกที่สื่อสารมวลชนทำงาน...ไม่ว่าจะความรุนแรงครั้งไหนๆ ...จะต้องจบลงที่การเจรจาเสมอ...หวังว่า โต๊ะแห่งการพูดคุยกันจะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพราะทุกนาทีที่ผ่านไป...มีชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกัน...