นับเป็นเวลาหนึ่งปีเศษแล้วที่ทั่วโลกเจอกับวิกฤตโควิด และมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกำลังจะแตะ160 ล้านคนเข้าไปทุกขณะ อย่างไรก็ตาม มีหลากหลายประเทศที่กำลังจะ คืนสู่สภาวะปกติแล้ว ทั้งที่สหรัฐ ยุโรป รวมถึงออสเตรเลีย ซึ่งมีสาเหตุสำคัญ จากการระดมฉีดวัคซีนกันโควิด19 เต็มที่
• อังกฤษกำลังจะ "กอด" กันได้
ช่วงฤดูร้อนของยุโรป ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว นั่นคือช่วง ระหว่าง มิถุนายน ถึง สิงหาคม ในแต่ละปีจะเป็นช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวไปมาระหว่างกัน ทำให้หลายชาติที่เผชิญกับการระบาดรุนแรงก่อนหน้านี้ ได้เร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อหวังให้ทันฤดูแห่งการท่องเที่ยวและเตรียมเปิด
ด้านสหราชอาณาจักร บอริส จอห์นสัน เตรียมแถลงประกาศผ่อนปรนระดับที่ 3 ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าจะให้ครอบครัวและเพื่อนฝูง ที่ไม่ได้อยู่ในบ้านเดียวกัน สามารถ "กอด" กันได้อีกครั้ง ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ทั้งนี้ จะต้องอยู่บนสามัญสำนึกพื้นฐานประชาชน และต้องขึ้นอยู่กับ "อัตราการติดเชื้อ" ว่าจะยังคงต่ำ จนถึงวันที่ผ่อนปรนหรือไม่
นอกจากนี้ จะอนุญาตให้ประชาชนเจอกันในบ้านได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีใหม่ ไม่เกิน 6 คน จาก 2 บ้าน งานศพจัดได้ไม่เกิน 30 คน และร้านอาหาร-ผับ จะได้รับการเปิดอีกครั้ง รวมถีงนั่งกินในร้านได้ แต่ต้องเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม เป็นต้น โดย ปัจจุบัน อังกฤษ ฉีดวัคซีนไปแล้ว 53 ล้านโดส ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อ 4.4 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 127,000 คน
และตอนนี้ สหราชอาณาจักรลดระดับเตือนภัยโควิด-19 ลง 1 ระดับ เหลือระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ หลังความเสี่ยงของการระบาดลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่าง และความสำเร็จในการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ประชาชน
• รับแสงแดดที่เยอรมนี
ที่ เยอรมนี , เยนส์ ชปาห์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยว่า อาจจะมีการยกเลิกข้อกำหนดเรื่องการกักตัว 14 วันสำหรับชาวเยอรมันที่กลับจากต่างประเทศและได้รับวัคซีนครบแล้ว ยกเว้นเพียงผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดของเชื้อโควิดหนักๆ ณ ตอนนี้ เยอรมนีกำลังพิจารณาด้วยว่า อาจยกเลิกข้อจำกัดในการรวมตัวกลางแจ้งและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของประชาชน ในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำกว่า 100 คนต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งรวมถึง การรับประทานอาหาร การเปิดผับ บาร์ การชมคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ ด้วย
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวเยอรมันส่วนใหญ่ เริ่มออกมาสัมผัสอากาศที่อบอุ่นและอาบแดดในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนกันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทางการอนุญาตให้มีการนั่งรับประทานอาหารเย็นและดื่มเบียร์ในสวนได้อีกครั้ง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดลดลงอย่างมาก จนทำให้รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มต่าง ๆ ในหลายพื้นแคว้น
ทั้งนี้ มาตรการใหม่ของเยอรมนี คือ ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว จะได้รับการผ่อนปรนมาตรการต่าง ๆ ตั้งแต่วันอาทิตย์ คือ ไม่มีกำหนดเคอร์ฟิว และสามารถติดต่อสื่อสารกับคนอื่นได้ รวมถึง ไม่จำเป็นต้องแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบเพื่อใช้บริการต่าง ๆ อาทิ การตัดผม ช้อปปิ้ง เป็นต้น แต่การสวมหน้ากากอนามัยในร้านค้า-รถโดยสารสาธารณะ ตลอดจนการเว้นระยะห่างยังต้องมีอยู่
•ออสเตรเลียบางรัฐผู้ป่วยเป็น 0
เกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินแผนงานเพื่อเปิดพรมแดนระหว่างประเทศของออสเตรเลียอีกครั้ง นอกจากนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย เปิดศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ในนครซิดนีย์ มุ่งฉีดวัคซีนต้านโควิดให้ประชาชนกว่า 30,000 คนทุกสัปดาห์ โดย รัฐนิวเซาท์เวลส์ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ ต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 4 แล้ว แต่มาตรการควบคุมและการใช้การเว้นระยะห่างทางสังคมนาน 1 สัปดาห์ ยังมีผลอยู่ นับแต่วันที่ 9 พฤษภาคม หลังพบกลุ่มผู้ป่วยโควิดรายใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ตอนนี้ ออสเตรเลียฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 3.6 ล้านโดส คิดเป็น 20.4 % ของประชากรทั้งหมด แต่ยังถือว่าช้ากว่าที่รัฐบาลให้คำมั่นไว้ที่ 4 ล้านคนภายในปลายเดือนมีนาคมแต่ก็มีสัญญาณที่ดีมากๆแล้ว
• สหรัฐวัคซีนเหลือเฟือ : ฉีดฟรีที่ซานฟรานฯ
ด้าน สหรัฐฯ กำลังจะอนุมัติวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัท Pfizer เพื่อใช้กรณีฉุกเฉินในกลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 12-15 ปีแล้ว ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนชาวอเมริกันมากขึ้น
ขณะที่ องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ FDA แถลงว่า การอนุมัติประเด็นนี้ นับเป็นขั้นตอนสำคัญในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยดร.เจเน็ต วูดค็อก คณะกรรมาธิการของ FDA กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อทำให้สหรัฐฯเข้าใกล้การกลับไปสู่การใช้ชีวิตปกติ และสิ้นสุดการระบาดของไวรัส ขณะนี้มีชาวอเมริกันประมาณ 260 ล้านคนฉีดวัคซีนแล้ว เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากประเทศจีน
ขณะที่ สนามบินซานฟรานซิสโกได้จัดให้ฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ที่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ โดยผู้ได้รับสิทธินั้นจะต้องเป็นผู้โดยสารขาเข้า หรือออก ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งผู้ต้องการจะรับวัคซีนให้ลงทะเบียนผ่านทางออนไลน์ และเข้ามารับวัคซีนโดสแรก จากนั้นจะมีการกำหนดวันรับวัคซีนครั้งต่อไปในอีก 3 สัปดาห์ โดยมีวัคซีน 3 ยี่ห้อให้เลือก ได้แก่ โมเดอร์น่า ไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์ จอห์นสัน ฟรี...
...จะเห็นได้ว่าทุกประเทศที่กล่าวมา มีแผนแก้ไขโควิด19 ที่ชัดเจนและมุ่งมั่นในการระดมฉีดวัคซีนให้มากที่สุด เพราะทุกประเทศต้องการ "ประกาศอิสรภาพจากโควิด19" ให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งฟื้นเร็วเท่าไร ผลดีที่ตามมาก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น...ประชาชนจะได้มีชีวิตชีวา และกลับมาดำเนินชีวิตเป็นปกติได้อีกครั้ง...