องค์กรช่วยเหลือสัตว์ ช่วย สุนัขบีเกิลกว่า 4,000 ตัว รอดพ้นการเป็น สัตว์ทดลอง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวที่น่าตกใจสำหรับ คนรักสัตว์ รักสิ่งแวดล้อม เมื่อมี สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า องค์กรด้านคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือสัตว์ (U.S. Humane Society)  บุกช่วยเหลือสุนัขสายพันธุ์บีเกิลราวๆ  4,000 ตัว ออกจากศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ และถือเป็นการช่วยชีวิตเหล่า สุนัขบีเกิลเหล่านี้ ไม่ให้ถูกนำไปเป็นสัตว์ทดลอง ในการผลิตยา

ตามรายงานระบุว่า สุนัขบีเกิล มากกว่า 4,000 ตัว ได้รับการเพาะพันธุ์ภายในศูนย์วิจัยเอนวิโก้ ในรัฐเวอจิเนีย เพื่อจำหน่ายให้กับห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องการนำสุนัขบีเกิล ไปทดลอง
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แคมเปญ #SaveRalph : แอนิเมชั่นรณรงค์ "หยุดใช้สัตว์ทดลอง" เครื่องสำอาง

• รัฐนิวเจอร์ซีย์ประกาศแบนเครื่องสำอางที่ผ่านการทดสอบในสัตว์แล้ว!

คิตตี้ บล็อก Kitty Block  ประธานสมาคมมนุษยธรรมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรช่วยเหลือสัตว์ในสหรัฐฯ ที่ไม่แสวงหาผลกำไร  แสดงความคิดเห็นว่า อาจจะต้องใช้เวลาราวๆ 60 วันหรือ 2 เดือน ในการช่วยเหลือสุนัขสายพันธุ์บีเกิล ทั้งหมดออกจากศูนย์แห่งนี้ รวมถึงยังต้องประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อจัดหาบ้านให้กับเจ้าบีเกิลทั้ง  4,000 ตัวนี้ที่เกือบจะต้องเป็นเหยื่อในการทดลองยา

ที่ผ่านมา  กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เพิ่งจะเป็นโจทย์ยื่นฟ้องศูนย์วิจัยแห่งนี้ ที่มีการพบ สุนัขบีเกิลจำนวนมากมายถึงมากกว่า 4,000 ตัว  ในข้อหาละเมิดกฎหมายป้องกันการทารุณกรรมและสวัสดิภาพสัตว์ หลังจากพบว่า มีสุนัขบีเกิลจำนวนมากตายลงในศูนย์วิจัยแห่งนี้    เนื่องจากถูกทอดทิ้งโดยไม่ได้รับการรักษา ถูกทำให้อดอาหาร หรือหนาวตาย นอกจากนี้ ยังมีสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมากจากการกัดกันเพราะกรงอาศัยมีสภาพแออัด

ทั้งนี้ ในประเด็นการนำสัตว์มาทดลองในอุตสาหกรรมต่างๆ มีการตั้งคำถามมากมายในประเด็นนี้ ถึงเรื่องจริยธรรม และความถูกต้อง โดยเมื่อปี 2021 ก็เพิ่งจะมี แคมเปญที่กลายเป็นไวรัลทั่วโลก #SaveRalph เป็นโครงการจาก Humane Society International โดยแคมเปญนี้ มีเป้าหมายเพื่อยุติการใช้เครื่องสำอางที่นำสัตว์มาเป็นตัวทดลอง , โดยการเล่าเรื่องของ แคมเปญนี้ เล่าถึงความโหดร้าย ทารุณของเหล่าสัตว์ทดลองที่ต้องเจอ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดสารต่าง ๆ เข้าทางดวงตา จนเกือบตาบอด การถูกจับโกนขน เพื่อทดลองเครื่องสำอาง เป็นต้น

คำถามสำคัญที่เชื่อว่าจะอยู่ในใจของทุกคนคือ โลก จะไม่มีสัตว์ทดลอง ได้หรือไม่ ? เพราะในอดีตที่ผ่านมา ในอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ต่างก็ต้องใช้  ‘สัตว์ทดลอง’ เป็นผู้รับไม้แรกของความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ทั้งนั้น  แม้ว่า ในบางครั้งผลลัพธ์ของการทดลอง มันอาจจะหมายถึง "ชีวีตสัตว์"  พวกมันก็ต้องเสียสละอยู่ดีทั้งขึ้นทั้งล่อง ทั้ง หนู กระต่าย แมว นก สุนัข ลิง หรือ สุนัขบีเกิล 4,000 กว่าตัว ที่เพิ่งรอดชีวิตมาหมาดๆ 

ในอนาคต เทรนด์วิจัย หรือ เทรนด์การทดลอง ที่จะไม่ทำร้ายสัตว์เพื่อวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นได้อย่างไร  ถ้าไม่ใช้สัตว์แล้วจะใช้อะไรทดแทน และเป็นไปได้จริงหรือ ?  คำตอบของเรื่องนี้ คือ ยังไงก็ตาม ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ในปัจจุบัน โลกของเรายังคงหลีกเลี่ยงการใช้ สัตว์ทดลอง ไม่ได้ ทั้งหมด  อย่างน้อยก็ในกรณี การศึกษา พฤติกรรม ของสัตว์ทดลอง (behavior study) ที่ได้รับผลกระทบจากโรคต่างๆ  จะมีการแสดงออกทางท่าทางอย่างไรเมื่อพวกมันป่วย ง่วงซึม ไม่อยากอาหาร เก็บตัว หรือดุร้ายต่อสมาชิกในฝูงมากขึ้นหรือไม่  พฤติกรรมที่ซับซ้อนเหล่านี้ ยังไม่มีโมเดลจำลองใดๆ มาอธิบายได้แจ่มชัดเท่ากับการทดลองในสัตว์  แต่สิ่งที่โลกกำลังจะเดินไปหา ก็คือ การกำจัด ปริมาณ "สัตว์ทดลอง" ให้น้อยที่สุด 

นอกจากนี้  ยังมี นวัตกรรมเพื่อที่จะให้ การใช้ "สัตว์ทดลอง" น้อยลง อาทิ ใช้ เครื่อง 3D Printer จำลองอวัยวะจิ๋ว แทนการใช้สัตว์ทดลอง , โดยในอดีตที่ผ่านมา เคยมี สถาบัน Wake Forest Institute for Regenerative Medicine ใช้ เทคโนโลยี 3D Printer  พิมพ์อวัยวะให้ใกล้เคียงกับมนุษย์มากที่สุดขึ้นมาใช้  ทำให้มันมีขนาดเล็กลง แต่ไม่สูญเสียศักยภาพในการทดลอง สถาบันนี้จึงนำเซลล์กระเพาะปัสสาวะและไตของมนุษย์ โดยเอาเซลล์มาเลี้ยงแล้วขึ้นรูปแบบพิมพ์ 3 มิติ คล้ายการ ‘ย่อส่วน’ มาเป็นโมเดลที่เล็กลง  แต่เรื่องนี้มันยังถือว่า ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป 

เมื่อโลกหมุนมาถึง ปี 2022 มีความพยายามหาวิธีการที่ทดแทน การใช้สัตว์ทดลอง แม้ตอนนี้ ในอุตสาหกรรมบางอุตสาหกรรมยังมี สัตว์ทดลองอยู่ และนี่ คือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้  

แต่ความพยายามลดจำนวนการใช้สัตว์ทดลองลง การที่สังคมตั้งคำถามเชิงจริยธรรมกับสัตว์ทดลองมากขึ้น รวมถึงกรณีล่าสุดในการช่วยเหลือสุนัขบีเกิล 4,000 กว่าตัวด้วย   การตั้งคำถามในทุกกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์  ...มันไม่ใช่การถ่วงความก้าวหน้า แต่มันเป็นการหาทางออกร่วมกัน ต่อทุกชีวิต บนโลกใบนี้
.