อ่าวมาหยา (อ่าวเดอะบีช) : ความสวยงามทะเลไทยที่ถูกถ่ายทอดผ่านหนัง The Beach

อ่าวมาหยา หรือ อ่าวที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก รู้จักในชื่อ "อ่าวเดอะบีช" อ่าว The Beach กำลังจะกลับมาเปิดอ้าแขนต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ในวันที่ 1 ม.ค. 2022 นี้ หลังจากที่ปิดทำการมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2018 หรือหากคิดเป็นจำนวนเวลาก็คือ 3 ปีครึ่ง เลยทีเดียว
.
ในช่วงเวลา 3 ปีครึ่ง ที่อ่าวมาหยา ปิดไปนั้น ก็มีจุดประสงค์ เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราให้ฟื้นคืนกลับมาให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลังจากต้องอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มานาน 
.
หาก ทวนเข็มนาฬิกากลับไปในอดีต และจมดิ่้งกลับไปในความทรงจำ... "อ่าวมาหยา" เคยเป็นสถานที่ที่โด่งดังไปทั้งโลก จากการที่บริษัท "20th Century Fox" บริษัทหนังยักษ์ใหญ่ เข้ามาติดต่อทางการไทย ในช่วงปี 1999 (พ.ศ.2542) เพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก ในภาพยนตร์ The Beach (เดอะบีช) ภาพยนตร์ที่เป็นผลงานการกำกับของ แดนนี่ บอยล์ (ภายหลังได้ออสการ์ผู้กำกับยอดเยี่ยมจากหนัง Slumdog Millionaire ปี 2008 ) โดยมี ลีโอนาโด้ ดิคาปริโอ เป็นนักแสดงนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สวยมาก! "อ่าวมาหยา" หลังธรรมชาติฟื้นตัว ดีเดย์เปิด 1 ม.ค.

• 109 ปีไททานิคล่ม : ตัวละครแห่งยุค"แจ็ค-โรส" มิตรภาพสวยงามในชีวิตจริง

• ชีวิต แฟรงก์ อบาเนล นักต้มตุ๋นตัวท็อปของโลก สู่ภาพยนตร์ Catch Me If You Can

แม้ ณ ช่วงเวลา เมื่อ 22 ปีที่แล้ว จะมีกระแสคัดค้านการถ่ายทำ ภาพยนตร์ The Beach ที่อ่าวมาหยา แต่ทว่าสุดท้ายแล้วโปรเจ็คนี้ก็ยังใส่เกียร์เดินหน้าต่อไป จนกระทั่ง ภาพยนตร์ The Beach ออกฉายในปี 2000 ด้วยทุนสร้างราวๆ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะทำรายได้ไปราวๆ เกือบๆ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 
.
อ่าวมาหยา ได้ชื่อว่าอ่าวที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ด้วยหน้าผาที่โอบล้อม ในอดีต เคยมีตะกอนทรายทับถมรวมกันกลายเป็นหาดทรายละเอียด แต่ภายหลังการถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach (เดอะบีช) ซึ่งมีการใช้แพขนานยนต์ไปเทียบ เพื่อขนย้ายเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ขึ้นฝั่ง เมื่อปี 1999 (พ.ศ.2542) พบว่าสันทรายเกิดรอยเว้า ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ นอกจากนี้การปรับพื้นที่ปลูกต้นมะพร้าว และสร้างที่พักชั่วคราว ยังทำลายพืชประจำถิ่น ทำลายความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน

 Credit  Youtube : RHINO

โดยในปี 1999 ภาพยนต์ The Beach (เดอะบีช) ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมป่าไม้ ให้ใช้พื้นที่อ่าวมาหยา โดยให้เหตุผลว่า เป็นการโปรโมทการท่องเที่ยว ซึ่งระหว่างปรับ
พื้นที่เพื่อถ่ายทำ ก็ถูกคัดค้านจากชาวกระบี่มาโดยตลอด เพราะเห็นว่า เป็นการทำลายธรรมชาติบนเกาะ สวนทางกับการร้องขอของ บริษัท "20th Century Fox"  ทเวนตี้ เซนจูรี่ฟอกซ์ ที่ให้เหตุผลเรื่องธรรมชาติที่สวยงาม
ในการเลือกสถานที่ถ่ายทำ แต่กลับทำลายธรรมชาติ
.
จากกรณีของ อ่าวมาหยา ที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น ทาง อบจ.กระบี่ และ อบต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ยื่นฟ้องผู้อนุญาตให้ “20th Century Fox" ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์”  บริษัทสร้างภาพยนตร์เรื่อง เดอะบีช เพื่อเรียกค่าเสียหาย
จากการกระบวนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม บนอ่าวมาหยา อ่าวที่สวยงามที่สุดบนเกาะพีพีเล ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยฟ้องขอให้ชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 100 ล้านบาท ซึ่งศาลแพ่งแผนกคดีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รับคำฟ้องครั้งแรกเมื่อปี 2012 (พ.ศ. 2555) 
.
แต่ปัจจุบัน เป็นเวลา 9 ปีเต็มๆแล้วที่เรื่องนี้เข้าไปอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งยังเดินไปไม่ถึงบทสรุป โดยล่าสุด เมื่อปี 2018 (พ.ศ.2561) ทั้ง ศาล โจทก์ และจำเลย ในคดีนี้มีความพยายามไกล่เกลี่ยกัน 
.
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าตอนนี้ อ่าวมาหยา จะเป็นอย่างไร...ต่อให้มีเงินมากมายเท่าไร ก็ซื้อเวลา และซื้อสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาให้อย่างงดงามไว้ไม่ได้...เพราะความงามของธรรมชาติตั้งใช้เวลานับพันปีในการสรรค์สร้าง
ส่วนปะการัง ในเวลา 1 ปี พวกเขาเติบโตขึ้นเพียงแค่ 10-14 เซนติเมตรเท่านั้น ....แต่มันอาจถูกทำลายได้ง่ายๆ จากความพลั้งเผลอในไม่กี่วินาที