ขณะนี้ทั่วโลกได้ให้ความสนใจเรื่องความยั่งยืนและปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น รวมถึงในประเทศไทยก็ตาม และเนื่องจากสถานการณ์โลกทำให้น้ำมันแพงขึ้นหลายเท่าตัว ทำให้ไทวัสดุได้เล็งเห็นว่ารถ EV Truck จะมาตอบโจทย์หลากหลายด้านในยุคปัจจุบัน
จากก่อนหน้านี้ที่ไทวัสดุได้ใช้พลังงานดีเซลกับรถบรรทุกและการขนส่งเป็นจำนวนมาก ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยได้นำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด นำร่องขนส่งใน 21 สาขา พร้อมทั้งยังช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งในระยะยาวอีกด้วย
รถบรรทุกไฟฟ้า EV Truck จำนวน 6 คัน ได้ทดลองวิ่งนำร่องออกส่งสินค้าใน 21 สาขา ซึ่งสเปกของรถบรรทุกไฟฟ้าสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลถึง 400 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง คิดเป็นมูลค่า 3 บาท ต่อ 1 กิโลเมตร ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานจากเดิมที่เป็นพลังงานดีเซลได้ถึง 50%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยบริษัท ไทวัสดุ ยังได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มรถบรรทุกพลังงานสะอาด กว่า 50% รวมจำนวน 30 คัน ในปี 2566 ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม่กว่า 200 ต้น ต่อปี
บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงผลกระทบจากการผลิตที่ใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก และยังปรับมาใช้พลังงานแบบหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในช่วงเวลากลางวัน หรือระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โดยไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง
ร้านไทวัสดุ จึงได้ลงทุนติดตั้ง Solar Roof ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 7 สาขา ปี 2564 ติดตั้งจำนวน 8 สาขา และในปี 2565 ติดตั้งเพิ่มเติมจำนวน 23 สาขา ด้วยงบลงทุนกว่า 274 ล้านบาท
สามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าได้กว่า 15 ล้านบาท ต่อเดือน รวมถึงการประหยัดใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 2.5 ล้านต้น ต่อปี
ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลธุรกิจสีเขียวตัวอย่างที่ดีของไทวัสดุ ที่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการโลจิสติกส์หรือการขนส่ง เพราะไม่เพียงช่วยลดมลภาวะสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรโลก แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆของบริษัทได้ในระยะยาวอีกด้วย