ชวนส่อง "Journalism, media and technology trends and predictions 2022" ผลสำรวจจากผู้ผลิตสื่อ บรรณาธิการ เกี่ยวกับมุมมองเรื่องการปรับตัวของสื่อ นักข่าว คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนไปและเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆ ในปีนี้
ยิ่งข้อมูลหรือข่าวมีความสำคัญต่อสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิต วิกฤตโควิด-19 ที่ยืดเยื้อข้ามมาอีกปี จึงสูบพลังงานทั้งผู้ผลิตสื่อ นักข่าว ครีเอเตอร์ และคนอ่าน/คนดู จนเกิดอาการหมดไฟแล้ว หมดไฟอีก...
ภาพรวมของยุคที่ใครๆ ก็รายงานข่าวและสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้
Reuters Institute for the Study of Journalism เผยภาพรวมด้านการติดตามข่าวสารในปี 2021 ว่า ผู้คนติดตามข่าวสารลดลง ความท้าทายของการนำเสนอข่าวในปีนี้จึงอยู่ที่ว่า จะดึงดูดคนที่ไม่สนข้อมูลข่าวสารให้กลับมาเข้าถึงข่าวหรือคอนเทนต์ได้อย่างไร เนื่องจากเจเนอเรชันของคนอ่านเปลี่ยนไป ความสนใจในการติดตามข่าวก็เปลี่ยนไปด้วย รวมถึงมุมมองในเรื่องความหลากหลาย การไม่แบ่งแยกชนชั้น และวาระสำคัญของโลก อย่างเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหาสุขภาพจิต ไปจนถึงสิ่งที่นักข่าวควรสื่อสารบนโซเชียลมีเดีย
ในด้านธุรกิจสื่อ องค์กรที่นำเสนอข่าวแบบเก่ายังคงเร่งพลิกโฉมไปสู่องค์กรดิจิทัล กอปรกับสื่อสิ่งพิมพ์และค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่สูงขึ้น ธุรกิจสิ่งพิมพ์ในบางประเทศเล็งเห็นว่า ไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน หลายสื่อจึงตั้งเป้าไปที่โมเดลธุรกิจ Subscription หรือ การสมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารออนไลน์ และยังคาดการณ์ต่อด้วยว่า โมเดลการรับสมัครสมาชิกแบบนี้อาจโตได้ในวงจำกัด โดยเฉพาะในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจย่ำแย่
หลังจากที่รายได้จากโฆษณาดิจิทัลเทไปยังแพลตฟอร์มยักษ์อยู่หลายปี ปีนี้ผู้ผลิตสื่อมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนดีขึ้น เนื่องจากมีกฎออกมาควบคุมการเข้าถึงและใช้ข้อมูลบุคคลของแพลตฟอร์มที่เป็นบุคคลที่สาม (Third-party) เข้มงวดขึ้น ขณะเดียวกัน คนอ่านก็กังวลเรื่องการรับข้อมูลข่าวสารผิดๆ กระแสความสนใจจึงตีกลับไปหาแบรนด์ที่เชื่อถือได้
ส่วนเรื่องเกณฑ์ที่ใช้กำกับดูแลแพลตฟอร์มที่เกิดขึ้นในปีนี้ เช่น ในสหภาพยุโรปและบางประเทศที่รัฐบาลพยายามควบคุมบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่มากขึ้น ขณะที่เทคโนโลยีในยุคต่อไป อย่าง ปัญญาประดิษฐ์, สกุลเงินดิจิทัล และ เมตาเวิร์ส จะสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้สังคม พร้อมกับสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการเชื่อมต่อ กระจายข้อมูลข่าวสาร และส่งต่อความบันเทิง
ความคิดเห็นของสื่อชั้นนำบอกอะไรได้หลายอย่าง
ผลสำรวจความคิดเห็นองค์กรสื่อชั้นนำ 246 ราย จาก 52 ประเทศ ที่ปรากฏในรายงาน Journalism, media, and technology trends and predictions 2022 โดยผู้ตอบแบบสำรวจระดับซีอีโอ บรรณาธิการ ผู้จัดการ เผยคำตอบที่บ่งบอกสภาพการณ์ในปัจจุบันและเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นได้หลายประการ ดังนี้
- 1 -
แม้ผู้ตอบแบบสำรวจ 54% บอกว่า มียอดเข้าชมเว็บ (Pageviews) ลดลง แต่เกือบ 6 ใน 10 หรือ 59% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่า มีรายได้มากกว่าปีก่อน
และเมื่อสอบถามไปยังผู้ผลิตสื่อ ได้คำตอบว่า มีผู้ซื้อโฆษณาออนไลน์มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การรับสมัครสมาชิกเพื่อรับข้อมูลข่าวสาร (Subscription) ก็ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มเช่นกัน
- 2 -
3 ใน 4 หรือ 75% ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นบรรณาธิการ ซีอีโอ และผู้นำด้านดิจิทัลบอกว่า เชื่อมั่นว่าในปี 2022 บริษัทจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่วนอีกไม่ถึง 60% ที่ตอบแบบเดียวกันว่าสื่อสารมวลชนก็น่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแบ่งขั้วทางสังคม การโจมตีนักข่าวและสื่ออิสระ กับความยั่งยืนทางการเงินของสื่อสิ่งพิมพ์ระดับท้องถิ่น
- 3 -
ผู้ผลิตสื่อวางแผนที่จะเดินหน้าด้วยกลยุทธ์ การสมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสาร (Subscription) มากขึ้นในปีนี้ โดยผู้ตอบแบบสำรวจ 79% กล่าวว่า กลยุทธ์นี้จะสำคัญต่อรายได้ของบริษัทมากที่สุด และจะมากกว่ารายได้จากโฆษณาแบบเดิมๆ ขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสอบถาม 47% กังวลว่า โมเดลการสมัครรับสมาชิกเพื่อรับข้อมูลข่าวสารนี้ อาจผลักดันให้การผลิตข่าวสารเทไปยังคนที่ร่ำรวยและมีการศึกษามากขึ้น แล้วทิ้งกลุ่มอื่นๆ ไว้ข้างหลัง
- 4 -
ผู้ผลิตสื่อบอกว่า โดยเฉลี่ยแล้วมีแหล่งรายได้ 3 หรือ 4 ทาง ที่จะมีความสำคัญหรือสำคัญมากในปีนี้ ซึ่งเกือบ 3 ใน 10 หรือ 29% คาดว่า จะมีรายได้จำนวนมากจากค่าลิขสิทธิ์คอนเทนต์หรือนวัตกรรมที่ไปอยู่บนแพลตฟอร์มเทคโนโลยี กับอีก 15% คาดว่าจะได้จากกองทุนและมูลนิธิเพื่อการกุศลมากกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจรายอื่นๆ คาดหวังจะเดินหน้าธุรกิจหลังจากที่หยุดชะงักไปในช่วงวิกฤตโควิด-19
- 5 -
การที่รัฐออกกฎควบคุมอำนาจทางการตลาดและผลกระทบทางสังคมของบริษัทเทครายใหญ่ ทำให้เกิดความคาดหวังที่มีต่อรัฐบาลหลายด้าน เช่น การดำเนินงานของภาครัฐจะช่วยพัฒนางานสื่อได้ โดย 4 ใน 10 หรือ 41% แสดงความรู้สึกว่า นโยบายที่รัฐกำหนดขึ้นเพื่อแทรกแซงอาจช่วยให้อะไรดีขึ้น ขณะที่ 1 ใน 3 หรือ 34% มองว่า การแทรกแซงของรัฐบาลจะไม่มีอะไรต่างไปจากเดิม และ 1 ใน 4 หรือ 25% บอกว่า การแทรกแซงลักษณะนี้อาจทำให้อะไรๆ แย่ลง
- 6 -
ผู้ผลิตสื่อบอกว่า ปีนี้ความสำคัญของแพลตฟอร์มที่เป็น Third party อย่าง Facebook กับ Twitter จะลดลง แต่ความพยายามที่จะใช้ Instagram เพิ่มขึ้น 54% TikTok 44% และ YouTube 43% เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกัน องค์กรข่าวหลายแห่งจะปรับกฎบริษัทให้เข้มงวดขึ้นในด้านการแสดงออกของนักข่าวเมื่อใช้โซเชียลมีเดีย
จากการสำรวจความคิดเห็น บรรณาธิการและผู้จัดการส่วนใหญ่แสดงคิดเห็นว่า ปีนี้นักข่าวอาจติดอยู่กับการรายงานข่าวบน Twitter และ Facebook ขณะเดียวกันก็กังวลด้วยว่า การแสดงความเห็นจากมุมมองส่วนตัวของนักข่าวบนโซเชียลอาจทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของคนอ่านหรือผู้ติดตามได้
- 7 -
ขณะที่ผลกระทบด้าน Climate Change หรือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สร้างแรงกดดันมากขึ้น อุตสาหกรรมสื่อเองก็ระบุไม่ได้ว่า จะนำเสนอหรือจัดการเรื่องที่ซับซ้อนและมีหลากหลายแง่มุมในรูปแบบไหน โดย 3 ใน 10 ส่วน หรือราว 34% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า อุตสาหกรรมสื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Climate Change อย่างรอบด้าน
ฝั่งบรรณาธิการบอกว่า เป็นเรื่องยากที่จะให้ทำให้คนอ่านกระแสหลักสังเกตได้ถึงเรื่องราวที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป และบ่อยครั้งที่เรื่องนี้ทำให้คนอ่านหรือคนรับสารรู้สึกหดหู่ สะท้อนได้ว่า นี่เป็นเรื่องยากของผู้ผลิตสื่อในการจ้างนักข่าวที่มีความเชี่ยวชาญมาอธิบายปัญหาระดับโลกที่มีความซับซ้อนและทำให้คนอ่านรู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนั้นสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
- 8 -
ในแง่นวัตกรรม 2 ใน 3 หรือ 67% ของผู้ตอบแบบสำรวจบอกว่า ปีนี้จะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปรับปรุงหรือพัฒนาคอนเทนต์ที่มีอยู่ให้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม โดยมีเพียง 1 ใน 3 หรือ 32% เท่านั้นที่บอกว่าให้ความสำคัญกับ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ สำคัญกว่าการขยายการเติบโตของแบรนด์
ผู้ผลิตสื่อกล่าวถึงอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของการสร้างสรรค์นวัตกรรมในปีนี้ นั่นคือ การขาดแคลนทรัพยากร เช่น เงินทุน เนื่องจากปัญหาและความท้าทายทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และ ความยากในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคเอาไว้
- 9 -
ในกลุ่มผู้ตอบแบบสำรวจ ผู้ผลิตสื่อ 80% บอกว่าจะเพิ่มทรัพยากรในพอดแคสต์และเพิ่มคอนเทนต์เสียงในโลกดิจิทัลให้มากขึ้นในปีนี้ ใกล้เคียงกับอีกกลุ่มที่บอกว่า จะส่งจดหมายข่าวทางอีเมล (Newsletter) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งทั้งสองช่องทางนี้พิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความจงรักภักดีต่อแบรนด์และดึงดูดให้มีการสมัครสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น
ในทางตรงกันข้าม มีเพียง 14% เท่านั้นที่บอกว่า จะลงทุนในคอนเทนต์ประเภทเสียงและมีเพียง 8% ที่จะสร้างแอปพลิเคชันใหม่เพื่อใช้ในโลกเมตาเวิร์ส เช่น เทคโนโลยี VR, AR
- 10 -
บริษัทสื่อหลายแห่งจะยังพึ่ง ปัญญาประดิษฐ์ ในการมอบประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวให้แก่ผู้ติดตามมากขึ้น และเพื่อการผลิตคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามมากกว่า 8 ใน 10 หรือ 85% กล่าวว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะสำคัญต่อการนำเสนอคอนเทนต์ และ 81% เห็นว่าการนำเสนอข่าวผ่านระบบอัตโนมัติจะช่วยให้คนเข้าถึงได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ มากกว่า 2 ใน 3 หรือ 69% ของผู้ตอบแบบสำรวจมองว่า AI มีความสำคัญต่อธุรกิจในด้านการดึงดูดและรักษาผู้ติดตาม รวมถึงลูกค้าได้ด้วย
*บทความนี้มีภาคต่อ : New Norm, Next Normal สำหรับผู้ผลิตสื่อ นักข่าว และคอนเทนต์ ครีเอเตอร์*
..........................
ที่มา : Journalism, media, and technology trends and predictions 2022 [THE REUTERS INSTITUTE FOR THE STUDY OF JOURNALISM]