svasdssvasds

ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

รีวิวภาพยนตร์ Elvis หนังอัตชีวประวัติ ราชาเพลงร็อกแอนด์โรล ผู้ทิ้งมรดกวัฒนธรรม ไว้มากมาย...ตราบจนทุกวันนี้ และ ชื่อของ เอลวิส เพรสลีย์ ก็จะไม่เคยหายออกไปจากใจผู้คนทั้งโลก

หากจะมองภาพประเทศสหรัฐอเมริกากลับไปในยุค 1950s,1960s และต้น 1970s ในยุคที่มีความขัดแย้ง มีปมทางสังคม ความเลื่อมล้ำของสีผิว และความรุนแรง ในการแบ่งแยกสังคม การเล่าเรื่องราวชีวิตบุคคลสำคัญอย่าง Elvis Presley (เอลวิส เพรสลีย์) ก็น่าจะเป็นตัวแทนช่วงเปลี่ยนผ่านแห่งวัฒนธรรมต่างๆในสหรัฐฯได้ดีคนหนึ่ง  และ บาซ เลอห์มานน์ Baz Luhrmann ผู้กำกับชื่อดังชาวออสซี่แห่งวงการฮอลลิวู้ด ที่เคยฝากสุดยอดผลงานไว้ อาทิ Romeo + Juliet (1996) , Moulin Rouge! (2001) และ The Great Gatsby (2013) ก็ได้หยิบเรื่องราวชีวิตของ ราชาเพลงร็อกแอนด์โรล (Rock & Roll) อย่างเอลวิส มาถ่ายทอดได้อย่างถึงแก่น ผ่านหนัง Elvis 

ภาพยนตร์ Elvis เรื่องย่อ ถือเป็นหนังอัตชีวประวัติที่มีมุมมองแปลกใหม่ในการเล่า โดยจะเล่าผ่านมุมมอง "ตัวร้าย" อย่างผู้พันทอม ปาร์กเกอร์ Tom Parker ซึ่งแสดงโดย ทอม แฮงค์ ผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จบนเส้นทางดนตรีของ อีพี Elvis Presley ที่แสดงโดย ออสติน บัตเลอร์ (Austin Butler) ควบคู่ไปกับการกอบโกยเม็ดเงินและผลประโยชน์จาก Elvis Presley ไปในเวลาเดียวกัน 


ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ในหนังเล่านับตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ ผู้พันทอม ปาร์กเกอร์ ไปปลุกปั้น อี.พี. เอลวิส เพรสลีย์ Elvis Presley ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น จนกระทั่งเติบใหญ่เป็นขวัญใจของมหาชนคนทั้งประเทศ 

จากท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ และลีลาของเขา มัดใจสาวๆอเมริกัน และผู้หญิงทั้งโลกได้ราวกับเป็นเชือกวิเศษที่ผูกเงื่อนตายไม่มีวันแก้ได้ 

ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล
 

แต่ในทางกลับกัน...ท่าเต้นเย้ายวนใจ เขย่าขา และคอสตูมสูทอันเป็นเอกลักษณ์ของเอลลิส เพรสลีย์ มันได้กลับกลายเป็นภัยทางสังคม ภัยทางวัฒนธรรมอเมริกา ณ เวลานั้น จนกระทั่ง ทางการสหรัฐฯ ถึงกับหาวิธีจัดการเขา และเขาถูกบีบบังคับจากผู้พันทอม ปาร์กเกอร์ ให้ไปเป็นทหาร (ซึ่งมันเสียเวลาชีวิต เสียหายเรื่องหน้าที่การงานมากๆ)    

แต่ความเป็น ขบถ ของเอลวิส เพรสลีย์ ในหนัง Elvis ก็ยังฉายแววอยู่ตลอดเวลา (และความเป็น ขบถ มันก็คงซ่อนอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน เพราะนี่คือแหล่งพลังงานสร้างสรรค์ครีเอทีฟอย่างดี) 

ในภาพยนตร์ Elvis เล่าเรื่องตั้งแต่สมัยที่ เขายังไม่มีชื่อเสียง แต่เอลวิส เพรสลีย์ ก็เริ่มมีผลตอบรับในปี 1954 เมื่อเขาหยิบเพลง ‘That’s All Right’ ของ Arthur Crudup นักดนตรีบลูส์ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน มาร้องคัฟเวอร์ , เอลวิส ไม่ต่างอะไรกับศิลปินเพลงบลูส์ที่ยุคนั้นมีแต่คนผิวดำ แต่ทว่า เอลวิส เพรสลีย์ อยู่ในร่างของ "คนขาว" และนั่นคือ "จุดขาย" ที่เปล่งประกายรอไปเตะสายตาแฟนๆทุกคน 

ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

แต่ในความเป็นจริง...ทุกเรื่องราวย่อมมีหลากหลายมุมมอง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเพียงด้านสว่างเพียงอย่างเดียว , เอลวิส เพรสลีย์ โด่งดังขึ้นตามลำดับ ปี 1956 เขาเซ็นสัญญากับค่ายเพลงอย่าง RCA และปล่อย ‘Heartbreak Hotel’ รวมทั้งบทเพลงอื่น ๆ เอลวิสกลายเป็นศิลปินที่มียอดขายสูงที่สุดและพาให้โลกดนตรีเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคสมัยของร็อกแอนด์โรล เขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นเดียวกันและรุ่นหลังอีกมากมาย ในฐานะ ราชา Rock & Roll , แต่ในอีกมุมที่ซ่อนความมืดเอาไว้ เจ้าของเพลง ‘That’s All Right’ อย่าง Arthur Crudup ไม่ได้รับการจดจำหรือได้รับการยกย่องเท่ากับ เอลวิส เพรสลี่ย์ เลย ...นี่คืออีกหนึ่งความจริงที่เศร้าและปฏิเสธไม่ได้....

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ภาพยนตร์ เล่าไว้ก็คือ การเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ,เขาเองเป็นคนที่หวาดกลัว การไม่ถูกจดจำ เขาจึงอยากอยู่ในสปอร์ตไลท์เรื่อยไป , ตลอดชีวิตของเขาได้รับความนิยมไม่เคยสร่าง ไม่เคยลดดีกรีลงเลย ไมว่าจะเป็นตอนร้องเพลง ตอนเล่นหนัง ตอนเป็นพรีเซนเตอร์ขายสินค้าในยุคสมัยนั้น แต่สิ่งที่เขารัก และเป็นชีวิตของเขาเองมากที่สุดก็คือการร้องเพลง จบจนวาระสุดท้าย 

ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

แม้แต่ตอนที่เขาเข้ารับหน้าที่ทหารในเยอรมนี (ซึ่งเป็นช่วงทำให้เขาเจอกับภรรยา พริสซิลล่า เพรสลีย์ Priscilla Presley ) เสียงร้องและใบหน้าของเขาก็ยังเป็นที่พูดถึงในอเมริกาและโลก 

สำหรับ เอลวิส เพรสลีย์ บนวัย 42 ปี  โบกมือลาจากโลกนี้ไปตั้งแต่ 16 สิงหาคม 1977 จากอาการหัวใจวาย , สิ่งที่เขาหวาดกลัวว่าจะไม่ถูกจดจำนั้น ถึงวันนี้ได้ข้อพิสูจน์แล้วว่า มันไม่เป็นจริงใดๆ เพราะทุกวันนี้ เกือบๆ 45 ปีผ่านมา ผู้คนบนโลกก็ยังพูดถึงเขาอยู่เลย เขาไม่ต่างอะไรกับไอคอนแห่งยุคสมัย , ตัวแทนแห่งวัฒนธรรมเพลงของโลก และเขาคือผู้ทรงอิทธิพลต่อความคิด ต่อโลก ณ ยุคหนึ่ง สมัยหนึ่ง

เอลวิส เพรสลีย์ ได้มอบร็อกแอนด์โรลล์ไว้กับโลก...และเพลงพวกนี้ มันไม่เคย ตาย...
 
Credit : Youtube Major Group
ภาพยนตร์ Elvis : ความยิ่งใหญ่ของผู้เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมเพลงร็อกแอนด์โรล

related