หลังจากกระแส ปรากฏการณ์ "ชัชชาติวิ่งสวนลุม" ทันทีที่เขากลายเป็นผู้ชนะผู้ว่ากทม. เรามาลองถอดรหัส การวิ่งแบบชัชชาติกันว่า คนทั่วไปจะทำได้หรือไม่ ? การ วิ่ง 10 กิโลเมตร คนทั่วไปจะฝึกวิ่งยังไงให้แข็งแกร่งเท่า ผู้ว่ากทม. ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี
นับเป็นกระแสไวรัลไม่น้อย กับการที่ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้สร้างปรากฏการณ์ "ชัชชาติวิ่งสวนลุม" ทันที หลังจากทราบผลเลือกตั้งผู้ว่ากทม. อย่างไม่เป็นทางการ หลังจากเขาได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม. เกือบ 1.4 ล้านคะแนน ทิ้งห่างอันดับ 2 กว่าล้านคะแนน และมีสื่อมวลชน "วิ่งตาม" ขอสัมภาษณ์ในขณะที่ ชัชชาติวิ่งสวนลุม อย่างมากมาย และกลายเป็นเรื่องที่พูดคุยผ่านโซเชียลมีเดียในวงกว้าง
จะสังเกตได้ว่า ท่วงท่าลีลาการวิ่งของ ชัชชาติ นั้น แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี อย่างไม่ต้องสงสัย...ฝีเท้านิ่ง Pace ความเร็วนิ่ง ปอดไม่มีหวั่นไหว นั่นหมายความว่า ชัชชาติ ฝึกกล้ามเนื้อหัวใจ ในแนวทางการฝึกซ้อม endurance หรือ แนวทางการวิ่งแบบอดทน มาเป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชัชชาติ ฟิตแต่เช้า วิ่งสวนลุม ขอบคุณประชาชน ยันใครเป็นรัฐบาลทำงานได้หมด
ทำความรู้จัก Freitag แบรนด์กระเป๋า เทรนด์รักษ์โลก แตกต่างและเป็นตัวเอง
ชัชชาติ ยัน ไม่เคยพูด “หากเลือกตน เก็บป้ายฯ ได้” มั่นใจไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง
• คนทั่วไป จะวิ่งแบบชัชชาติ ยังไงให้แข็งแกร่ง ?
คำถามที่คนทั่วไป อาจจะไม่เคยสะกิดใจเลย...แต่ความจริงแล้ว คนทั่วไป แม้จะไม่เคยออกกำลังกายเลย แต่ก็สามารถ วิ่งแบบชัชชาติได้ไม่ยาก , เพราะการวิ่ง 10 กิโลเมตร ถือเป็นระยะที่ไม่ไกลจนเกินไปในการวิ่งออกกำลังกาย แต่ มีข้อแม้ว่าต้องมั่นฝึกซ้อมด้วย
โดยทั่วไปแล้ว คนปกติที่ไม่ได้ฝึกซ้อมวิ่งอย่างเป็นเป็นประจำ สามารถ "เดิน" 10 กิโลเมตร ให้จบภายใน 2 ชั่วโมงได้ กล่าวคือ เดิน 1 ชั่วโมง ให้ได้ 5 กิโลเมตร ซึ่งไม่ได้ยากเกินความสามารถ นั่นหมายความว่า 1 กิโลเมตร จะต้องเดินให้ได้ภายใน 12 นาที (ศัพท์วงการวิ่งจะเรียกว่า Pace 12 หมายถึง 1 กิโลเมตรใช้เวลา 12 นาที)
แต่หาก ผู้ที่มีพื้นฐานการวิ่งอยู่แล้ว มีการฝึกซ้อมมาบ้าง สามารถ "จ๊อกกิ้ง 10 กิโลเมตร" ให้จบภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 90 นาทีได้ กล่าวคือ ต้องจ๊อกกิ้ง ให้ได้ต่ำกว่า Pace 9 ( 1 กิโลเมตรใช้เวลา 9 นาที) เพียงเท่านี้ก็จะวิ่งแบบชัชชาติ ได้ ภายใน 1 ชั่วโมงครึ่งแล้ว
ส่วนผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ฝึกซ้อมวิ่งอยู่เป็นประจำ และมีกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นแข็งแรงแล้ว สามารถ "วิ่ง 10 กิโลเมตร" ในสไตล์วิ่งแบบชัชชาติ ได้แบบไม่ยากเลย ซึ่งคนที่วิ่งส่วนใหญ่ มักจะมีเป้าหมายคือ Sub1 ชั่วโมง หรือต่ำกว่า 60 นาที อยู่แล้ว โดยหากจะสำเร็จในเป้าหมาย Sub1 ชั่วโมงนั้น จำเป็นจะต้องวิ่งให้ความเร็วต่ำกว่า Pace6 (1 กิโลเมตรใช้เวลา 6 นาที) เพียงเท่านี้ ก็จะได้สถิติสวยๆ ซับ 1 เอาไว้เป็นความภาคภูมิใจแล้ว ซึ่งการจะวิ่งให้ได้ Sub1 นั้น จำเป็นจะต้องมีการเตรียมตัวและฝึกซ้อมพอสมควร เพื่อให้ร่างกายทานทน และไม่บาดเจ็บด้วย
• วิ่ง 10 กิโลเมตร วิ่งแบบชัชชาติ ทำได้ที่ไหนบ้าง ?
ความจริงแล้ว ในกรุงเทพฯ มีสวนสาธารณะที่เหมาะกับการวิ่งอยู่พอสมควร เพียงแต่ ยังมีปริมาณไม่มากพอ และเข้าถึงได้ง่ายๆ ในระยะใกล้ๆ
.
แต่ในสวนสาธารณะที่เป็นที่นิยมเหมาะแก่ การวิ่งนั้น ขอยกตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ มีดังนี้ (หรือใครที่ไม่สะดวกก็สามารถหา สวนใกล้ๆบ้านได้)
• สวนลุม (รอบใหญ่) ระยะ 2.5 กิโลเมตร (ต้องวิ่งราว 4 รอบ)
• สวนหลวง ร.9 (รอบใหญ่) ระยะ 4.81 กิโลเมตร (ต้องวิ่งราวๆ 2 รอบ)
• รอบสวนจิตรลดา ระยะ 3.42 กิโลเมตร (ต้องวิ่งราวๆ 3 รอบ)
• สวนจตุจักร 3.06 กิโลเมตร (ต้องวิ่งราวๆ 3 รอบเศษ)
• สวนรถไฟ 2.06 กิโลเมตร (ต้องวิ่ง 5 รอบ)
• สวนเบญจสิริ 700 เมตร (ต้องวิ่ง 14 รอบเศษ)
• รอบวงกลมราชมังคลากีฬาสถาน 800 เมตร (ต้องวิ่งราวๆ 12 รอบครึ่ง)
• รอบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระยะ 3.5 กิโลเมตร (ต้องวิ่งราวๆ 3 รอบ)
• สวนวารีภิรมย์ หรือ บึงมะขามเทศ และ บึงสะแกงามสามเดือน ระยะ 4.2 (ต้องวิ่้งราวๆ 2 รอบเศษ)
• วิ่ง 10 กิโลเมตร วิ่งแบบชัชชาติ เผาพลังงานกี่แคลอรี่
.
สำหรับ การวิ่ง 10 กิโลเมตร วิ่งแบบชัชชาตินั้น จะมีการเผาพลังงานของร่างกาย อยู่ที่ราวๆ 600-1,000 แคลอรี่ kcal หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เวลาในการวิ่ง ความฟิต การฝึกซ้อม อายุ หรือแม้แต่น้ำหนักตัวของแต่ละคน แตกต่างกันไป
.
ทั้งนี้ SPRiNG ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการวิ่งของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม.คนใหม่ได้ รวมถึงไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล สุขภาพทั้งอัตราการเต้นของหัวใจต่อนาที หรือเรื่อง heart rate ของผู้ว่ากทม.ได้ แต่จากการประเมินคร่าวๆ และจากข้อมูลอยู่ที่ราวๆ Pace 5.30 ดังนั้น หาก วิ่งแบบชัชชาติ ในอัตราคงที่ได้อย่างต่อเนื่อง จะจบ 10 กิโลเมตรในเวลา 55.00 นาที ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ร่างกายดีมาก
• ควรกินอะไร สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่อยากไปวิ่ง 10 กิโลเมตร ในสไตล์ วิ่งแบบชัชชาติ
นักวิ่งหน้าใหม่ (หรือหน้าเก่า) ควรกินคาร์โบไฮเดรตมากกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง 10 กิโลเมตร หรือวิ่งแบบชัชชาติ โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาได้ ตอนเช้าวันวิ่งควรกินอาหารจําพวกคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย แต่มีไขมันและใยอาหารน้อย กินให้ห่างจากเวลาวิ่งอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เช่น ขนมปังทาแยมผลไม้ 2 แผ่น และกาแฟใส่น้ำตาล 1 แก้ว หรือกล้วยหอม 1 ลูก เป็นต้น
ในระหว่างวิ่ง นักวิ่งที่วิ่งอยู่เป็นประจํา ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียวก็อาจเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องกินคาร์โบไฮเดรตระหว่างวิ่ง 10 กิโลเมตรก็ได้ แต่สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่อาจจะใช้เวลามากกว่า 90 นาที (วิ่งแบบยาวนานนั่นเอง) ควรมีคาร์โบไฮเดรตชนิดย่อยง่ายกินระหว่างวิ่ง หรืออาจจะเป็น เจลให้พลังงาน 1 ซอง หรือเครื่องดื่มให้พลังงานและเกลือแร่ หรือผลไม้อย่างกล้วยหอมและแตงโม เป็นต้น