ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์พุ่งสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์แล้ว รายงานใหม่ชี้วัดค่าคาร์บอนรายสัปดาห์ได้สูงสุดถึง 421.13 ppm โดย 600 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 100 เท่า
แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์จากหลากหลายองค์กรจะออกมาเตือนและรายงานผลการศึกษาเรื่องค่าวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และแม้จะมีการจัดประชุมหลายครั้งหรือสร้างนโยบายควบคุมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็ไม่อาจหยุดยั้งปริมาณของก๊าซที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องได้
จนในวันนี้ วันที่ไม่คาดคิดก็มาถึง บันทึกรายวัน รายสัปดาห์และรายเดือนกำลังบอกกับเราว่า ระดับคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว ในขณะที่ระบบเศรษฐกิจทุนนิยมกำลังขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสำคัญ
ข้อมลใหม่จาก National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) แสดงให้เห็นว่าความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยรายสัปดาห์ที่หอดูดาว Mauna Loa ในฮาวาย เพิ่มสูงขึ้นถึง 421.13 ส่วนต่อล้าน (ppm/Part Per Million หน่วยวัดค่ามลพิษทางอากาศ) ตั้งแต่วันที่ 8-14 พฤษภาคม 2022 ซึ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยบันทึกไว้ นอกจากนี้ยังเพิ่มขึ้นจากเดิม 418.34 ppm ภายในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และจากเดิม 397.38 เมื่อหนึ่งศตวรรษที่แล้ว (100ปี)
🏵️🏵️ HIGHEST-EVER WEEKLY #CO2 LEVEL WITH HUMANS ON EARTH 🏵️🏵️ 📈 421.13 ppm #CO2 in the atmosphere in the 19th week of 2022 📈 Up from 418.34 a year ago 📈 @NOAA Mauna Loa data: https://t.co/CkSjvjkBfQ 🌍 Track https://t.co/DpFGQoYEwb records: https://t.co/irp782yRAI 🌍 pic.twitter.com/gVChvPII96
— CO2_Earth (@CO2_earth) May 16, 2022
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Climate change? พายุทรายถล่มอิรัก 8 ลูกในรอบ 2 เดือน ผู้คนป่วยมากกว่า 5,000 คน
คลื่นความร้อนทำอากาศร้อนในอินเดีย แตะ 49 องศาเซลเซียสแล้ววันนี้
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. โชว์วิสัยทัศน์เวทีเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าของกรุง
นักวิจัยชี้ อีก 5 ปีข้างหน้า มีโอกาส 50-50 ที่อุณหภูมิโลกจะสูงกว่า 1.5 องศา
จากข้อมูลของ NOAA ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยต่อวันที่ Mauna Loa พุ่งถึง 422.04 ppm ในวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งต่ำกว่าสถิติตลอดกาลที่วัดได้สูงสุดในหมวดของรายวันที่ 422.06 ppm เมื่อวันที่ 26 เมษายน ห่างกันเพียง 0.02 ppm เท่านั้น
นอกจากนี้ นักวิจัยจาก Scripps Institution of Oceanography ที่มหาวิทยาลัยซานดิอาโก วัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 421.68 ppm ที่ Mauna Loa เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งก็ถือว่าเป็นปริมาณที่สูงมากสำหรับหมวดบันทึกประจำวัน
การวัดรายวันและรายสัปดาห์ที่ทำลายสถิติเกิดขึ้นหลังจากความเข้มข้นของ CO² เฉลี่ยรายเดือนที่ Mauna Loa เกิน 420 ppm เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ โดย NOAA สังเกตค่าคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 420.23 ppm ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบกับ Scripps ที่ 420.02 ppm
“เราแค่ไม่รู้จักดาวเคราะห์ดวงนี้ดีพอ เรากำลังอยู่ในสภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ” นักอุตุนิยมวิทยา Eric Holthaus กล่าวเมื่อวันจันทร์
Pieter Tans นักวิทยาศาสตร์อาวุโสของ NOAA เพิ่งบอกกับ Axios ว่า “ยังมีแนวโน้มอีกว่า เดือนพฤษภาคมจะยังคงระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นเรื่อยๆ”
American Clean Power ก็ออกมาเตือนด้วยเช่นกันว่า “การเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดจะช่วยลดการปล่อยมลพิษและช่วยให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีขึ้นในอนาคต”
20 ปีที่แล้วความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยรายเดือนสูงสุดคือ 375.93 ppm ตามข้อมูลจาก NOAA ในปี 1958 ที่นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มต้นเก็บรวบรวมข้อมูลคาร์บอนไดออกไซด์เป็นปีแรกที่ Mauna Loa ซึ่งค่าเฉลี่ยขณะนั้นจะอยู่ที่ 317.51 ppm
เจมส์ แฮนเซน นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศ ได้แจ้งเตือนสมาชิกรัฐสภาที่อันตรายถึงชีวิตจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในปี 1988 ด้วยการเรียกร้องให้ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศให้ต่ำกว่า 350 ppm และขณะนี้มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า ความน่าอยู่ของดาวเคราะห์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของระดับคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ในช่วง 6 ศตวรรษ (600 ปี) ที่ผ่านมานั้นเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นก่อนหน้าถึงราว ๆ 100 เท่า ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อหลายพันปีก่อน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อชั้นบรรยากาศโลก มีโอกาสในการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและทำให้โอโซนในชั้นบรรยากาศเป็นรูโหว่ อันตรายต่อมนุษย์อย่างรุนแรง
นอกจากนี้ รายงานจากเว็บไซต์ Global Carbon Atlas.org ได้แสดงผลอย่างเป็นทางการของค่าเฉลี่ยโดยรวมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยในปี 2020 ประเทศที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุด 3 อันดับแรกคือ จีน สหรัฐอเมริกาและอินเดีย ตามลำดับ โดยประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 24
เมื่อเร็วๆ นี้ Tans กล่าวกับ Financial Times ว่า "เรากำลังไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ด้วยความเร็วสูงสุด"
โจ แซนเบิร์ก นักเคลื่อนไหวในแคลิฟอร์เนียกล่าวอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“เป็นเรื่องน่าตกใจที่เรากำลังมองลงมาที่อัตวิบากกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญมา และเรายังไม่ผ่านข้อตกลงใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เวลากำลังจะหมดลง ไม่ว่าเราจะผลักดันอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลให้สูญพันธุ์เท่าไหร่ แต่สิ่งที่สูญพันธุ์อาจไม่ใช่อุตสาหกรรม แต่เป็นอารยธรรมของมนุษย์เอง"
ที่มาข้อมูล
https://www.commondreams.org/news/2022/05/17/earths-atmospheric-co2-hasnt-been-high-millions-years
http://www.globalcarbonatlas.org/en/CO2-emissions