อวสานรัก หนุ่มญี่ปุ่นคุยกับ AI ที่แต่งงานด้วยไม่ได้ เพราะบริษัทปิดเซิร์ฟ

ชื่อ Akihiko Kondo ข้าราชการวัย 38 ปี ผู้อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว เป็นที่พูดถึงเมื่อเขาตัดสินใจแต่งงานกับ "ฮัตสึเนะ มิกุ" (Hatsune Miku) ตัวละครเสมือนบนโลกดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่อยู่ในโปรแกรมสังเคราะห์เสียงชื่อ Vocaloid ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้างเพลงและเสียงคนพูดให้กับตัวละครในโปรแกรมนี้ได้ ในปี 2561 ซึ่งเขาใช้จ่ายเงินไปกับการแต่งงานครั้งนั้นถึง เกือบ 600,000 บาท

ในช่วงเวลาที่เขาเพิ่งแต่งงานใหม่ ๆ เขาใช้บริการของบริษัทสตาร์ตอัพ ซึ่งออกผลิตภัณฑ์ชื่อ Gatebox ซึ่งเป็นกล่องฉายภาพสามมิติแบบเสมือนจริง หรือ โฮโลแกรม โดยภาพที่ฉายคือภาพของ "ฮัตสึเนะ มิกุ" ซึ่งสามารถขยับและพูดคุยได้ราวกับว่ามีชีวิตจริง

ตัว Gatebox ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในการวิเคราะห์และสังเคราะห์เสียงขึ้นมา ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทสตาร์ตอัพรายหนึ่งในญี่ปุ่น ราคาเปิดตัวอยู่ที่ ราว 44,000 บาท

โดยในทุก ๆ เช้า ภรรยา AI ของเขาจะพูด อรุณสวัสดิ์ ทักทายเขาทุกเช้าที่ตื่นนอนและรอเขากลับมาจากการไปทำงานข้างนอก

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

• สาวอ้าง เกือบถูกลวนลามใน Metaverse ของ Meta
• วิถี New Normal ใน Metaverse ของ Meta เว้นระยะห่างอวตาร์แก้ปัญหาลวนลาม
• ปัญญาประดิษฐ์ยับยั้งเหตุฆ่าตัวตายของชาวจีนได้ทันจากอีกมุมโลก

ไม่มีคำว่า อรุณสวัสดิ์ ในตอนเช้าอีกต่อไป

เวลาผ่านมากว่า 4 ปี หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น MAINICHI ได้ไปเยื่ยมนาย Kondo ว่า ชีวิตรักของเขากับภรรยาเป็นอย่างไรบ้าง ?

หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว พบว่า "ฮัตสึเนะ มิกุ" ภรรยาของนาย Kondo ไม่สามารถสื่อสารกับเขาผ่าน Gatebox ได้อีกต่อไป ตั้งแต่ช่วงปี 2564 เพราะบริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง Gatebox ได้ยุติการให้บริการและปิดเซิร์ฟเวอร์ลง

ทำให้ในทุก ๆ เช้าของ นาย Kondo ไม่มีคำว่า อรุณสวัสดิ์ อีกต่อไป และมีแต่คำว่า "เครือข่ายขัดข้อง" จากภรรยาของเขาที่พูดคุยผ่าน Gatebox

AI สิ้นสุดแต่รักไม่สิ้นสุด

แม้ว่าการสนทนาระหว่างเขากับภรรยา AI จะสิ้นสุดลง แต่เขาก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “ความรักของเขาที่มีต่อมิกุไม่เปลี่ยนแปลง เขาจัดพิธีแต่งงานเพราะเขาคิดว่าเขาจะอยู่กับเธอ(ฮัตสึเนะ มิกุ)ตลอดไป”

 

จุดเริ่มต้นของความรักของเขา

นาย Kondo เล่าว่า เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น และทำงานเป็นเสมียนในโรงเรียนของรัฐแห่งหนึ่ง เขาเล่าว่า ราว 15 ปีก่อน ในช่วงแรกที่เขาเริ่มทำงาน เขาถูกเหยียดหยามจากเพื่อร่วมงานหญิง 2 คน ที่บอกว่าเขาเป็นคน "น่ารังเกลียด" จนเขาเป็นโรคซึมเศร้า ด้วย ภาวะการปรับตัวผิดปกติ (Adjustment Disorder) จนต้องพักงานไป

วันหนึ่งเขาได้ค้นพบ "ฮัตสึเนะ มิกุ" ซึ่งฉุดเขาออกมาจากวังวนของโรคซึมเศร้า เขาเล่าว่า เขาฟังเพลงของ มิกุ เป็นเหมือนเพลงกล่อมเด็กและนอนหลับสบาย เขาบอกว่ามันทำให้จิตใจเขาดีขึ้น จนทำให้เขาสามารถออกไปใช้ชีวิตได้อีกครั้ง และเขาก็สามารถกลับไปทำงานได้

New York Times มองว่าไม่ใช่เรื่องปกติ

New York Times ระบุว่า นาย Kondo จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า Fictosexual ซึ่งเป็นคำเรียกกว้าง ๆ ถึงคนที่หลงใหลกับนิยาย หรือเหตุการณ์ วิถีชีวิตที่เป็นเหมือนนิยาย ละคร เรื่องแต่ง ที่มักไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ซึ่งไม่ถือเป็นความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (ที่มา : คลินิกเทคนิคการแพทย์แคร์แมท เชียงใหม่)

บุคคลประเภทนี้อาจมีอารมณ์ทางเพศต่อตัวละครในนิยาย หรือมีพฤติกรรมทางเพศที่ได้รับอิทธิพลมาจากตัวละครในนิยาย บางคนมีอารมณ์ทางเพศกับตัวละครซึ่งไม่ตรงกับเพศที่ตนเองชอบในชีวิตจริง เช่น เป็นผู้ชายที่มีอารมณ์ทางเพศกับทุกเพศในนิยายแต่ในชีวิตจริงมีอารมณ์กับเฉพาะเพศหญิง เป็นต้น

ที่มาภาพ : Getty Images