ชวนส่องชีวิตสัตว์ในยูเครนท่ามกลางสงครามรัสเซีย - ยูเครน

ชีวิตต้องดิ้นรนและ ไม่ใช่ทุกตัวจะได้อยู่กับเจ้าของ

เมื่อสงครามทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องดิ้นรนเอาตัวรอด แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้อิสระเช่นมนุษย์เลย นั่นคือเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ ที่ทั้งมีเจ้าของและไม่มีเจ้าของ หรือแม้กระทั่งที่อาศัยอยู่ในกรงสวนสัตว์  ในบทความนี้ Springnews จะชวนไปดูชีวิตของสัตว์เหล่านั้น ว่าท่ามกลางสงครามเช่นนี้ พวกมันต้องเผชิญกับอะไรบ้าง จะดีจะร้ายอย่างไร ไปดูกัน

สัตว์ในสวนสัตว์ ชีวิตที่ติดอยู่ในกรงขัง หวาดกลัวกับเสียงระเบิดจากโลกภายนอกที่ไม่รู้จะพุ่งลงมาหาตัวเองเมื่อใด

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ของสวนสัตว์ เจ้าฮอเรซ (Horace) ช้างเอเชียวัย 17 ปี ผู้ไม่ชอบเสียงดังนั้นเริ่มเดินกระวนกระวาย เพราะมันไม่ชอบเสียงดังเอามากๆ จนเจ้าหน้าที่ต้องให้ยาระงับประสาทแก่มัน และแอปเปิ้ลก็ถูกทยอยนำเข้าปากของฮอเรซจนกว่าเขาจะเริ่มผ่อนคลาย ทุกวันนี้เจ้าฮอเรซกินอาหารประมาณ 220 ปอนด์ต่อวัน ซึ่งก็เยอะพอให้เจ้าหน้าที่กังวลว่าเสบียงอาหารจะพอหรือไม่

นอกจากฮอเรซ ม้าลายถูกขังอยู่ภายในกรงหลังจากตื่นตระหนกวิ่งไปมากับเสียงปลอกกระสุน และเจ้าลีเมอร์ก็ลนลานกับเสียงภายนอกจนทำให้มันละทิ้งลูกน้อยวัย 2 วันของมันไปอย่างง่ายดาย สวนสัตว์มีเสบียงอาหารเพียงพอในสต็อกประมาณ 2 สัปดาห์ พวกเขาหวังว่าช่วงที่อาหารใกล้หมด เราจะยังคงมีเส้นทางการขนส่งอาหารให้พวกมันอยู่บ้างอย่างต่อเนื่อง

สวนสัตว์ในกรุงเคียฟอยู่ท่ามกลางสงครามที่ร้อนระอุ ระเบิดและกระสุนพุ่งผ่านน่านฟ้า เบื้องล่างของดงกระสุนนั้นคือความหวดกลัวและความเครียดของสิ่งมีชิวิตกลุ่มหนึ่ง ถึงแม้พวกมันไม่ได้ตายจากสงคราม พวกมันก็อาจตายจากความอดอยากได้

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สวนสัตว์ในกรุงเคียฟได้โพสต์รูปภาพของพื้นที่ภายในสวนสัตว์ ในเขตของ Feldman Ecopark ที่ถูกกระสุนยิงเข้ามาที่ตัวอาคารจนกระจกแตกกระจัดกระจาย พร้อมรายงานว่ามีสัตว์บาดเจ็บเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว  แต่การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นจึงโชคไม่ดีที่การสูญเสียเหล่านี้ยังไม่จบ

มีใครช่วยเหลือพวกมันได้แล้วบ้าง?

แม้ว่าช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางสวนสัตว์ได้ทำการประกาศหาประเทศที่จะสามารถรองรับสัตว์จำนวนหนึ่งให้อพยพหาที่พักพิงแห่งใหม่ชั่วคราว เพื่อให้พวกมันปลอดภัยจากสงคราม และประเทศโปแลนด์ก็รับเป็นผู้อุปถัมภ์ แต่มีข้อจำกัดในด้านการขนส่ง ทางสวนสัตว์เคียฟต้องคัดเลือกสัตว์ที่แข็งแรงมากพอที่จะเดินทางไกลข้ามชายแดนด้วยรถบรรทุก เพราะน่านฟ้าปิด โดยสัตว์ที่ได้รับการอพยพไปยังโปแลนด์ประกอบด้วย สิงโต 6 ตัว เสือ 6 ตัว แมวป่าคาราคัล 2 ตัว และสุนัขป่าแอฟริกัน 1 ตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่บีบหัวใจมากสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะต้องเลือกผู้รอดชีวิต

อีกทั้งการเดินทางนั้นไม่ง่ายเลย เพราะพวกเขาต้องขับรถหนีโซนทิ้งระเบิด เพจ Poetry of Bitch เผยว่า รถขนสัตว์ต้องขับหนีพื้นที่โจมตีของรัสเซียไปตลอดทาง ครั้งแรกล้มเหลวเพราะโดนรถถังรัสเซียล้อมไม่ให้ผ่าน จึงต้องกลับมาตั้งหลักที่สวนสัตว์ใหม่

รอบสองก็ต้องขับหนีโซนทิ้งระเบิดไปเข้ารกเข้าพง หลังขับอยู่นาน 2 วัน ในที่สุดก็ไปถึงชายแดนโปแลนด์ได้สำเร็จในสภาพที่รถมีรอยไหม้จากเศษระเบิด โดยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์โปแลนด์มารอรับอยู่ที่นั่นแล้ว พร้อมเผยเพิ่มเติมอีกว่า คนขับรถบรรทุกสัตว์ของยูเครนเป็นชายชรา 3 คน พวกเขาผลัดกันขับ แต่ทั้งสามคนไม่มีความรู้เรื่องการจัดการสัตว์หรือดูแลสัตว์เลย พอพวกเขาส่งสัตว์ถึงมือเจ้าหน้าที่โปแลนด์แล้ว พวกเขาก็บอกว่าต้องกลับไปรบเพื่อป้องกันประเทศต่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กุ้งล็อบสเตอร์เกยหาด 500 ตันบนชายฝั่งแอฟริกาใต้

• เมื่อโลมาไม่อยู่เคียงคู่ธารา หลังโลมาอิรวดีตัวสุดท้ายจากไป บอกอะไรบ้าง?

• วิธีสังเกต สัญญาณอันตราย ที่บอกอาการป่วยของสัตว์เลี้ยงก่อนอาการหนัก

• สงครามรัสเซีย-ยูเครน ปะทุอีก ชาวยูเครนเร่งฟื้นหลุมลบภัยสมัยสงครามเย็น

• รัสเซียสั่งพลาด! ไม่หยุดโจมตีชาวยูเครนที่อพยพ

แต่ที่เหลือในสวนสัตว์นั้น จะเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวใหญ่ซะเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงนก และสัตว์น้ำที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้เลย เจ้าหน้าที่ประมาณ 50 คนได้ย้ายพวกมันไปอยู่ในที่ที่สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีและเสียงดัง โดยจะเน้นไปที่ที่หลบภัยใต้ดิน ยกเว้นยีราฟที่พวกมันตัวใหญ่เกินไปที่จะเข้าไปได้ จึงต้องอยู่ด้านนอก ตลอดทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่อาจจากพวกมันไปไหนได้เพราะเป็นห่วง จึงเกณฑ์สมาชิกในครอบครัวมาช่วยดูแลเพิ่มอีกประมาณ 30 คน

“พวกมันไม่มีที่หลบซ่อนหรือวิ่งหนีไปไหนได้ หากพวกมันหนีออกจากสวนสัตว์ไป ตัวเลือกของพวกมันน้อยยิ่งกว่ามนุษย์เราซะอีก เพราะถนนตอนนี้มีแต่รถถัง” Kyrylo Trantin ผู้อำนวยการสวนสัตว์วัย 49 ปี กล่าว

แม้ทางสวนสัตว์จะเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ก่อนที่จะเกิดสงครามและก่อนที่รัสเซียจะเข้าโจมตีประมาณ 1 สัปดาห์ ด้วยคำแนะนำจากสวนสัตว์อื่นๆ ให้เตรียมตุนเสบียงอาหารและวัสดุเพื่อสร้างกรงใหม่ในกรณีที่ถูกโจมตี แต่นั่นก็ดูเหมือนจะไม่พอกับสัตว์ที่ตกอยู่ในภาวะเครียดเหล่านี้

สำหรับสวนสัตว์ ปัญหาใหญ่สุดในขณะนี้คือการขาดแคลนผักผลไม้สด ดังนั้น พนักงานจึงปลูกสวนผักเองเพื่อนำไปเป็นอาหารให้สัตว์ โดยเฉพาะการปลูกผักกาดหอมที่สดใหม่เท่าที่จะทำได้

สวนสัตว์ที่ร้างราผู้คนแความสุขของการเยี่ยมชมที่หายไป

ร้านกาแฟและแผงขายไอศกรีมปิดให้บริการ ม้านั่งที่ตกแต่งด้วยรูปสัตว์น่ารักนั้นว่างเปล่า ชิงช้าสวรรค์ที่มีสีสันหลากหลายนั้นเหงาหงอยกับท้องฟ้าสีเทา ฝูงนกบินอยู่เหนือสวนสัตว์ เสียงร้องของพวกมันก้อนสะท้อนผ่านความเงียบ

Ivan Rybchnko วัย 33 ปี เป็นหนึ่งในผู้ดูแลสวนสัตว์ที่ยังสามารถเข้าถึงที่ทำงานของเขาด้วยจักรยานได้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เขาเอนหลังพิงกรงข้างระเบียง และป้อนกล้วยให้ Dguto ยีราฟอายุ 17 ปี 2 ตัว โดยมีฉากหลังเป็นเสียงตู้มหลายครั้งและเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศ เขาและยีราฟ 2 ตัว ทำได้เพียงแค่นั่งสบตากันเท่านั้น Ivan ยืนยันที่จะอยู่ดูแลพวกมันที่นี่ อย่างน้อยพวกมันจะได้มีคนดูแลและมีเพื่อนคอยปลอบใจ

ที่จริงยังมีเรื่องของโทนี่ กอริลลาผู้ชอบของกินเป็นชีวิตจิตใจกับลีเมอร์น้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง 2 วันก็โดนแม่ทิ้ง เรื่องราวของพวกมันสามารถอ่านต่อได้ที่ >>> A blast-stressed elephant and an abandoned lemur: The war within Kyiv’s zoo

สัตว์เลี้ยง จากบ้านอันแสนอบอุ่น สู่การผจญภัยที่ไม่มีความสุขเอาซะเลย

หลายคนเริ่มอพยพย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน นอกหนือจากสัตว์ในสวนสัตว์แล้ว สัตว์เลี้ยงถือว่าเป็นสัตว์อีกจำพวกหนึ่งที่มีชะตาทั้งดีและร้ายต่างกันไป บางตัวเจ้าของก็นำข้ามพรมแดนไปด้วย บางตัวก็ติดอยู่ที่ด่านคัดกรองข้ามพรมแดน และบางตัวก็ถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว ท่ามกลางสมรภูมิที่มนุษย์เองก็ต่างก็เกรงกลัว แล้วนับประสาอะไรกับสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ไม่กี่วันก่อนหน้าพวกมันยังวิ่งเล่นมีความสุขกับคนที่มันรักอยู่เลย แต่ตอนนี้คนที่มันรักสุดหัวใจกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งให้พวกมันต้องเอาตัวรอดแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้

สถานการณ์สัตว์เลี้ยงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

รายงานจากเว็บไซต์ PETA ได้อัพเดตการทำงานอย่างหนักในการเข้าช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงและสัตว์จรที่ตกค้างและหลงทางอยู่ในประเทศยูเครน บางคนถูกบังคับให้ละทิ้งสัตว์เลี้ยงอันเป็นที่รักของพวกเขาตามท้องถนนหรือที่ชายแดน เนื่องจากพวกเขาไม่มีเอกสารสำหรับเข้าประเทศในสหภาพยุโรป

PETA Germany มีทีมงานที่พรมแดนระหว่างโปแลนด์และยูเครนเพื่อช่วยเหลือผู้คน สหายของพวกเขาและสัตว์จรจัด ตลอดจนช่วยงานเอกสารและนำพวกเขาไปสู่ความปลอดภัย ไม่นานหลังจากที่หน่วยงานของยุโรปของ PETA ยื่นอุทธรณ์ต่อประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen คณะกรรมกรรมธิการได้แนะนำให้ประเทศต่างๆ อนุญาตให้ผู้คนเข้ามาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงได้ง่ายขึ้น

หลายคนได้ทำเช่นนั้นด้วยความเมตตา แต่สถานการณ์ภาคพื้นดินที่ชายแดนยังคงสับสนและเปลี่ยนแปลงไปเกือบชั่วโมง PETA Germany ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่มีที่อยาอาศัยหรือรออยู่ที่ศูนย์พักพิง และจัดหาอาหารและการดูแลที่สำคัญ

แล้วจะเกิดอะไรขึ้น กับสัตว์ที่หาเจ้าของไม่ได้ หรือถูกทิ้งอย่างไม่ตั้งใจ หรืออาจตั้งใจก็ตาม

โชคดีที่ PETA Germany สามารถช่วยชีวิตสัตว์บางตัวจากเขตสงครามได้ ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรในโปแลนด์และโรมาเนีย ทางบริษัทได้จัดให้สัตว์เหล่านี้อยู่ในบ้านอันเป็นที่รักอย่างปลอดภัยและถูกกฎหมายรวมถึงมีการฉีดวัคซีน การตรวจเลือด และการกักกันที่จำเป็น PETA Germany เรียกร้องให้ผู้คนไม่ละทิ้งสัตว์ของพวกเขาและให้ทั้งครอบครัวอยู่ด้วยกันโดยพาสัตว์ไปกับพวกเขาหากพวกเขาต้องอพยพ

กฎชั่วคราวในการนำสัตว์ข้ามพรมแดนไปยังประเทศต่างๆมีการระบุไว้ที่นี่และได้รับการอัพเดตเป็นประจำ นอกจากนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์ที่ทำงานในยูเครนแล้ว หน่วยงานในยูเครนแล้ว หน่วยงานของ PETA ก็กำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้สัตว์จำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ให้มีที่อยู่และคนดูแลให้พวกมันรู้สึกปลอดภัยจากอันตรายในช่วงเวลาเลวร้ายนี้

ในด้านของผู้อพยพ ก็มีคนแชร์ภาพบนโซเชียลมากมายถึงเจ้าของที่ไม่ยอมทิ้งน้องหมาน้องแมวสุดที่รัก พวกเขานำพวกมันหนีไปด้วย ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และขอบคุณมากที่ไม่ละทิ้งพวกเขาแม้จะต้องเผชิญวิกฤตเช่นนี้

แต่ก็ไม่ใช่สัตว์ทุกตัวจะโชคดีนัก บางตัวก็ถูกปล่อยทิ้งให้เดียวดายท่ามกลางถนน ที่เต็มไปด้วยเสียงระเบิดและกระสุนที่ยิงข้ามน่านฟ้าไปมา พวกมันน่าเห็นใจกว่าสัตว์ในสวนสัตว์นิดหน่อยตรงที่ไม่มีคนดูแล และต้องอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัวและสภาวะเครียดอย่างเดียวดาย

ส่วนหนึ่งที่องค์กรช่วยเหลือสามารถทำได้คือการเก็บตกพวกมันเท่าที่พบระหว่างลาดตระเวน และนำพวกมันไปให้กับผู้ใจบุฯที่พร้อมจะให้ที่พักพิงและให้การดูแลแก่พวกมันชั่วคราว โดยทางองค์กรจะช่วยสนับสนุนในด้านของอาหารและการฉีดวัคซีนให้กับสัตว์ทุกตัวที่เขาค้นพบ แต่ก็มีสัตว์อีกหลายตัวที่ไม่ทราบชะตากรรม รวมไปถึงสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของตั้งแต่แรก หรือสัตว์จรก็เป็นอีกชีวิตที่น่าสงสาร

แล้วคุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือพวกมันได้ไหม

แน่นอนว่า เขียนมาขนาดนี้แล้ว ผู้เขียนไม่นิ่งดูดายแน่นอน ทางองค์กรของ PETA ได้รวบรวมข่าวสารอัพเดตและช่องทางการช่วยเหลือหากคุณอยากมีส่วนร่วมในการให้พวกมันได้อยู่ในที่ปลอดภัยและมีน้ำและอาหารเพียงพอในช่วงสงคราม คุณสามารถบริจาคเงินไปยังผู้อุปถัมภ์พวกมันก็ได้ หรือจะรับเลี้ยงพวกมันก็ได้ โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>> https://www.peta.org.uk/blog/faqs-animals-ukraine/

ที่มาข้อมูล

https://www.peta.org.uk/blog/faqs-animals-ukraine/

https://twitter.com/PETAUK?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1498589164907991040%7Ctwgr%5E%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.bbc.com%2Fnews%2Fnewsbeat-60593791

https://www.washingtonpost.com/world/2022/03/06/ukraine-kyiv-russia-zoo/

https://web.facebook.com/Zoo-Pozna%C5%84-Official-Site-1475315479348773/?_rdc=1&_rdr

https://nypost.com/2022/03/04/thousands-of-animals-trapped-at-kyiv-zoo-in-ukraine/

https://web.facebook.com/FeldmanEcopark/?_rdc=1&_rdr